Huaweiนำเสนอระบบปฏิบัติการใหม่ HarmonyOS พร้อมโชว์ศักยภาพซอฟต์แวร์ EMUI10 เพื่อประสบการณ์การใช้งานเหนือระดับสำหรับทุกสมาร์ทไลฟ์
กรุงเทพฯ – 20 สิงหาคม 2562 – หัวเว่ยย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี นำเสนอ HarmonyOS ระบบปฏิบัติการแบบกระจาย (Distributed Operating System) ที่ใช้ Microkernel ในจัดการทรัพยากรระบบ เชื่อมโยงการใช้งานในทุกอุปกรณ์แห่งอนาคต มอบประสบการณ์การใช้งานที่ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมยกระดับสมาร์ทโฟนอีกขั้นด้วย EMUI10 ซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ที่พัฒนาตามแนวคิดแบบ Distributed เชื่อมโยงอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์และแอปพลิเคชันต่างๆ เข้าด้วยกัน ตอบโจทย์การใช้งานและชีวิตดิจิทัล อย่างแท้จริง
HarmonyOS ระบบปฏิบัติการแห่งอนาคตที่จะเชื่อมโยงทุกอุปกรณ์ด้วยประสิทธิภาพสูงสุด
James Lu, Senior Manager of EMUI product marketing, Huawei Consumer Business Group เปิดเผยว่า “ในยุคของ Internet of Everything ที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทอย่างยิ่งในชีวิตประจำวันของคนเรานั้น ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ของหัวเว่ย จะเป็นก้าวใหม่ของโลกเทคโนโลยี ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งด้านความสามารถในการรองรับการทำงานบนอุปกรณ์ที่หลากหลาย ทำให้ใช้งานได้ในทุกสถานการณ์ การรองรับ
การทำงานกับแพลตฟอร์มและอุปกรณ์หลากประเภท ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต สมาร์ทวอทช์ ลำโพง ทีวี คอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่ในรถยนต์ นอกจากนี้ HarmonyOS ยังเพียบพร้อมไปด้วยความสามารถในแง่ของการตอบสนองการใช้งานอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพสูง รวมทั้งยังมีความปลอดภัยกับผู้บริโภคอย่างยิ่งอีกด้วย”
HarmonyOS เป็นระบบปฏิบัติการที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพสำหรับสมาร์ทดีไวซ์ และเป็น ครั้งแรกของโลกที่ใช้ระบบปฏิบัติการแบบกระจาย (Distributed Operating System) ซึ่งการใช้ Microkernel ในการจัดการทรัพยากรระบบนั้น ทำให้สามารถทำงานได้กับทุกอุปกรณ์ อีกทั้งยังเป็นระบบปฏิบัติการที่
รองรับคุณสมบัติอันชาญฉลาด ทั้ง Shared Communications Platform, Distributed Data Management,
Distributed Task Scheduling, และ Virtual Peripherals
สถาปัตยกรรมของระบบปฏิบัติการแบบ Distributed OS ที่รองรับเทคโนโลยี Distributed Virtual Bus
ทำให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณสมบัติต่างๆ ของแอปพลิเคชันได้อย่างเต็มที่ โดยไม่จำเป็นต้องศึกษารายละเอียดเชิงลึก เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันให้เหมาะสมกับอุปกรณ์รุ่นที่แตกต่างกันอีกต่อไป เพราะการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับระบบปฏิบัติการ HarmonyOS จะสามารถใช้งานกับอุปกรณ์ที่แตกต่างกันได้ อย่างต่อเนื่อง
- เทคโนโลยี Deterministic Latency Engine และ High-Performance Inter Process Communication (IPC) ช่วยให้ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS มีการทำงานที่ลื่นไหล ลดอาการหน่วงของแอปพลิเคชันลงได้ถึง 25.7% นอกจากนี้ Microkernel ยังสอดคล้องกับเทคโนโลยี IPC ส่งผลให้ประสิทธิภาพของ IPC สูงกว่าระบบปฏิบัติการอื่นๆ ถึง 5 เท่า
- HarmonyOS เป็นระบบปฏิบัติแรกที่มีการยืนยันแบบ Formal Verification ซึ่งทำงานบน Trusted Execution Environment (TEE) โดยอาศัยการสร้างโมเดลข้อมูลเพื่อตรวจสอบทุกส่วนของซอฟต์แวร์ และใช้กลไก ทางคณิตศาสตร์เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของระบบตั้งแต่แหล่งที่มา จึงแตกต่างจากระบบการยืนยันแบบเดิม นอกจากนี้ ยังมีจำนวนบรรทัดโค้ดที่น้อยกว่าระบบปฏิบัติการที่พัฒนาจาก Linuxkernel ถึง 1 ต่อ 1,000 ทำให้ มีช่องโหว่ของระบบน้อยกว่าระบบปฏิบัติการอื่น และนับเป็นการยกระดับความปลอดภัยของระบบให้สูงขึ้น
- HarmonyOS รองรับระบบ Multi-Device IDE ซึ่งเป็นระบบที่รองรับภาษาคอมพิวเตอร์หลากหลายภาษา และมีสถาปัตยกรรมที่รองรับการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบเฉพาะ ระบบ Multi-device IDE จะช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถเขียนชุดคำสั่งเพียงครั้งเดียว ก็สามารถนำซอฟต์แวร์ของตนไปใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS จึงนับเป็นการยกระดับการทำงานกับอุปกรณ์ที่หลากหลายไปอีกขั้น
- HUAWEI ARK Compiler เป็นคอมไพเลอร์แบบ Static ตัวแรกที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ Virtual Machine ของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งจะช่วยให้นักพัฒนาสามารถรวบรวมโค้ดที่ซับซ้อนมาเพื่อให้ระบบ แปลงเป็นโค้ดที่เรียบง่ายสำหรับการทำงานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว จึงเอื้อประโยชน์ให้กับนักพัฒนาเป็นอย่างมาก
“HarmonyOS เป็นระบบปฏิบัติการที่เปิดกว้างให้แก่นักพัฒนาทั่วโลก และจะสร้างมิติใหม่ให้กับการใช้งาน ทุกรูปแบบ โดยผู้บริโภคจะได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่เปี่ยมพลังและไร้รอยต่อตลอดทุกจังหวะของชีวิต ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์จะสามารถพัฒนาฮาร์ดแวร์ที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น 5G, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ IoT ได้ง่าย
และรวดเร็วขึ้น และนักพัฒนาจะสามารถเข้าถึงผู้ใช้จำนวนมากโดยใช้ต้นทุนน้อยลง และยังทำงานได้อย่างรวดเร็ว อีกด้วย” James Lu กล่าว
EMUI10 ซอฟต์แวร์ที่จะช่วยยกระดับสมาร์ทโฟนไปอีกขั้น
James Lu เปิดเผยว่า “ผู้ใช้สมาร์ทโฟนหัวเว่ยมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เห็นได้จากการส่งมอบสมาร์ทโฟนไปแล้วกว่า 100 ล้านเครื่องใน 5 เดือนแรกของปีนี้ ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน EMUI 500 ล้านคนต่อวัน ใน 216 ประเทศ รองรับภาษาท้องถิ่นกว่า 77 ภาษา จากสถิติของหัวเว่ยชี้ว่า ยอดการอัพเกรดของผู้ใช้ไปยัง EMUI8 นั้นอยู่ที่ร้อยละ 79 และ EMUI9 ร้อยละ 84 หัวเว่ยจึงมุ่งพัฒนาให้ EMUI เป็นสื่อกลางที่ช่วยผสานการทำงานต่างๆ
ระหว่างอุปกรณ์ และนำเสนอคุณสมบัติใหม่ๆ รวมไปถึงประสบการณ์การใช้งานระดับเยี่ยมยอดสู่ผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง
โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้กว่า 150 ล้านคนที่อัพเกรดไปใช้ EMUI10”
“ทั้งนี้ EMUI10 จะมีการอัพเดท 3 จุดที่สำคัญ คือรูปลักษณ์, ประสบการณ์การใช้งาน, ประสิทธิภาพ และมาตรฐานใหม่ ที่จะทำให้สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง”
โหมดมืด รูปลักษณ์ที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ในการใช้งาน
จากการวิจัยอย่างละเอียด หัวเว่ยพบว่าสายตาของมนุษย์ จะรู้สึกถึงระดับความสว่างสี และความอิ่มสี ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับฉากหลังว่าสว่างหรือมืดมากน้อยเพียงใด EMUI10 จะมีโหมดมืดที่สามารถปรับสมดุลย์ ของความต่างสีระหว่างข้อความและพื้นหลังโทนมืด สีตัวอักษร และไอคอนระบบ เพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกสบายตา และสามารถ ใช้งานสมาร์ทดีไวซ์ได้ง่ายขึ้น
สัมผัสประสิทธิภาพที่เหนือกว่าในการใช้งานข้ามอุปกรณ์
EMUI10 พัฒนาขึ้นจากรากฐานของเทคโนโลยีซอฟต์แวร์แบบ Distributed เพื่อคุณสมบัติใหม่ๆ
เช่น การรองรับวีดีโอคอลล์ความละเอียด HD บนอุปกรณ์ที่หลากหลาย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโทรศัพท์หรือวีดีโอคอลล์ได้จากทุกที่และทุกเวลา หากมีสายเข้า ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะรับสายโดยใช้ลำโพงอัจฉริยะ สมาร์ททีวีหรือแม้แต่ระบบ
อินโฟเทนเมนต์ในรถ ทำได้แม้กระทั่งการรับสัญญาณสดจากโดรนเพื่อแบ่งปันช่วงเวลาสำคัญกับสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนฝูง แนวคิดนี้ ยังช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ธุรกิจ เนื่องจากเทคโนโลยีซอฟต์แวร์แบบ distributed ช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายโอนข้อมูลระหว่างสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ได้ง่ายดายด้วยการลากและวางอีกด้วย
นอกจากนี้ หัวเว่ยยังพัฒนาคุณสมบัติด้านความปลอดภัยโดยใช้พื้นฐานของแนวคิดซอฟต์แวร์แบบ Distributed เพื่อให้ใช้งานได้ทุกสถานการณ์ สิ่งที่หัวเว่ยพัฒนาเพื่อยกระดับความปลอดภัยคือการใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ที่หัวเว่ยพัฒนาขึ้นเอง รวมไปถึงการใช้สถาปัตยกรรมชิพและเคอร์เนลระบบเป็นพื้นฐานของระบบรักษาความปลอดภัยและระบบยืนยันต่างๆ โดยการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ จะทำได้เมื่อผู้ใช้อนุญาตเท่านั้น และการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ จะเป็นแบบเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล
ปัจจุบันมีสมาร์ทดีไวซ์หลากหลายประเภทมากขึ้นทั้งสมาร์ทโฟนและสมาร์ททีวี อีโคซิสเต็มของแอปพลิเคชันต่างๆ ก็แผ่ขยายมากยิ่งขึ้น จำนวนอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์และแอปพลิเคชันที่ผู้ใช้มีก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ผู้ใช้งาน จึงคาดหวังจะได้รับประสบการณ์การใช้งานที่เหมือนกันไม่ว่าจะใช้งานในอุปกรณ์ใด และต้องการเข้าถึงบริการ ประเภทเดียวกันได้ตลอดทุกที่ นับเป็นเรื่องสำคัญที่นักพัฒนาจะต้องพัฒนาแอปพลิเคชันของตนให้รองรับหลายภาษา รองรับการทำงานกับอุปกรณ์ที่หลากหลาย และผสานการทำงานระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างลงตัว
คอนเฟิร์ม HUAWEI P30 Series จะได้รับอัพเดท EMUI10 ก่อน และจะปล่อยอัพเดทให้แก่รุ่นอื่นๆ ในอนาคตอันใกล้
สมาร์ทโฟน HUAWEI P30 Series จะได้รับการอัพเดท EMUI10 รุ่นเบต้าก่อน ในวันที่ 8 กันยายน และ สมาร์ทโฟน HUAWEI Mate20 Series จะได้รับการอัพเดทในลำดับต่อมา
ทั้งนี้ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS และซอฟต์แวร์ EMUI10 จะช่วยเชื่อมโยงอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ กับแอปพลิเคชั่นต่างๆ เข้าด้วยกัน สร้าง EcoSystem ที่สมบูรณ์แบบให้แก่ผลิตภัณฑ์หัวเว่ย พร้อมยกระดับประสบการณ์การใช้งานทั้งในปัจจุบันและอนาคตให้แก่ผู้ใช้งาน นอกจากนี้ ยังเชื่อมั่นได้ว่าทีมพัฒนาเทคโนโลยีของหัวเว่ย พร้อมจะผสานความร่วมมือกับทั้งพันธมิตรทางธุรกิจรวมถึงนักพัฒนาทั่วโลก เพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดสู่ผู้บริโภค