รีวิว realme 3 แบตจุใจ 4,230 mAh เกมแรง แบตอึด กล้องสีสวย เพียง 4,590.-
ROVแตะ 60 fps กล้องสีสันสดใส แบตให้มาเยอะจุใจ 4,230 mAh นี่คือนิยามที่ผมให้กับ realme 3 Smartphone ที่มีราคาจับต้องง่ายเริ่มต้นเพียง 4,590.-
หรือพร้อมโปรโมชั่นผูกโปรกับ Truenove Hเพียง 2,490.- เท่านั้นเอง
ภาพรวมของ realme 3 เป็น Smartphone หน้าจอ IPS 6.22” HD+ 19:9 ขอบจอที่บางมากส่วนที่บางสุดเพียง 2.09 mm เท่านั้น อัตราส่วน ratio screen to bodu =88.90%
ฝาหลังออกแบบมาในลักษณะ Uibody คือเป็นฝาหลังชิ้นเดียวจรดขอบด้านข้างเครื่องที่เป็นขอบโค้งแบบ 3D จับเข้ากระชับมือ ใช้งานมือเดียวได้อย่างสบาย
ตัวอย่างดีไซน์ สีที่ผมถืออยู่นี่คือสี dynamic black เป็นสีดำที่ส่วนล่างของฝาหลังไล่โทนไปทางฟ้าน้ำเงิน และมีเกร็ดประกายสะท้อนระยับ เล่นแสงทุกเฉดสะท้อน ดั่งหมู่ดาวประกายมากมายบนทางช้างเผือก
ทดสอบด้านความแรง
Antutu Benchmark : ได้ประมาณ 130,000
Geekbench 4 muti core : ประมาณ 5,000
เรียกได้ว่าคะแนนออกมาให้เรียบ ๆ เคียง ๆ Smartphone ราคาแตะหมื่น ซึ่งบางรุ่นที่ราคาเกือบหมื่นแต่ก็ได้ Helio P60 เหมือนกัน แต่ realme 3 ขายเพียง 4,590.- และ 5,990.- เท่านั้น
สเปคภาพรวม
-Android 9 P พร้อมกับ Color OS 6.0 รูปแบบใหม่ UI ใหม่
-CPU Chipset : Mediatek Helio P60 with AI Octa-Core
-GPU : Mali-G72 MP3
-RAM : 3 GB / 4 GB (มี 2 รุ่นย่อยให้เลือก RAM 3 GB + ROM 32 GB และ RAM 4 GB + ROM 64 GB)
-ROM : 32 GB / 64 GB
-แบตเตอรี่: 4,230 mAh
-portเชื่อมต่อ : micro-USB / 3.5mm
-กล้องหน้า : 13 MP พร้อม AI Beauty
-กล้องหลังคู่ : 13 MP f/1.8 และ 2 MP depth senseot
-3 slot 2 SIM + 1 Micro SD Card / 4G Dual Standby – เพิ่ม Micro SD Card ได้สูงสุด 256 GB
อุปกรณ์ภายในกล่องมีเคสใสความหนาขนาดปานกลางมาให้ ชุดอุปกรณ์พื้นฐาน สาย Micro-USB และ Adaptor ชาร์จไวที่ได้รับมาตรฐาน UL 5W2A
(อธิบายเพิ่มเติมนิด มาตรฐาน UL เป็นแลปอิสระในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นหน่วยงานใหญ่ที่ทดสอบอุปกรณ์ด้านไฟฟ้าต่าง ๆ ทั่วโลก อุปกรณ์ที่จะได้รับมาตรฐานมีหลายเกรดการันตี แต่อย่างน้อยสุดคือ ต้องปลอดภัย ไฟฟ้าเสถียรและ แพ็คเกจต้องไม่ลามไฟ จึงมั่นใจปลอดภัยได้ด้านความปลอดภัยบน realme 3)
การปลดล็อคตัวเครื่องทำได้ทั้ง finger scan ด้านหลังวางมาในตำแหน่งที่เหมาะสมและการสแกนใบหน้า
Color OS 6.0 ตัวนี้ถือว่าเพิ่มประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้เรา เมื่อเราปัดหน้าจอไปฝั่งซ้ายจะพบกับ Smart Assisstant ผู้ช่วยในชีวิตประจำวันของเรา แสดงข้อมูลที่สำคัญต่าง ๆ ที่เราต้องใช้ในชีวิตประจำวันได้
เราสามารถแบ่ง 2 หน้าจอ split screenใช้งาน 2 แอพพลิเคชั่นได้และปรับเพิ่มลดอัตราส่วนได้ด้วย เล่น facebook ไป ดู youtube ไปได้
สิ่งสำคัญที่สุดคือCPU + Battery CPU Chipset Mediatek Helio P60 เป็นตัวที่ผมชมมาตลอดลองมาดูครั้งนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ทดสอบเล่นเกม
ROV : เปิด high fps ได้ และเปิดทุกอย่างสุด ภาพ HD
เปิดเกมมาได้เห็น เลข 61 ให้ขึ้นมาให้ประทับใจ 3 นาทีแรก fps แตะ 60 fps บ่อยมาก แม้จังหวะที่มี hero 2-3 ตัวในฉาก ก็อยู่ที่ราว 57 fps+
ตลอดเกมแม้ในช่วง lategame ไม่มี fps ต่ำกว่า 50 fps ให้เห็นเลยแม้จังหวะที่หนักที่สุด
เรีกยได้ว่าทำออกมาได้สมกับความเป็น Helio P60 with AI ซึ่งมีคนไปเทียบกับ Snapdragon 660 AIE ถามว่าใครดีกว่ากันจริง ๆ แล้ว ตอบยากนะ แต่สิ่งที่ Helio P60 ดูจะเข้าใจได้ง่ายกว่าคือ Smarthpone แทบทุกรุ่นที่ใช้ helio P60 ปรับจูนตัวเกมได้ง่าย ทำ fpsและเกมลื่น ในขณะที่ 660 AIE บางรุ่นบางยี่ห้อก็ลื่นจริง บางรุ่น ROV fps ลงไปเลข 3 ก็มี
PUBG : เปิด HD คุณภาพระดับ HIGH ได้
ตัวเกมเล่นได้ลื่นไหลและควบคุมทิศทางได้ง่าย การโหลดฉากต่าง ๆ เงา แสง ต้นไม้ องค์ประกอบต่าง ๆ มาเกือบจะในทันที ยกเว้นตอนที่เคลื่อนไหวเร็วเช่นขับรถจะมีจังหวะโหลดนิดแต่ ภาพรวมสามารถเล่นได้แบบไม่หงิดหงุด คือปรับ HD HIGH และยังเล่นได้จริง
อย่างไรก็ตามทั้ง 2 เกมเรายังรู้สึกว่ามีบางจังหวัดที่มีอาการ “กระจิ๊ก” เป็นคำที่ผมมักใช้ในรีวิว คือ การปัดควบคุมทิศทางแล้วตอบสนองไม่ตรงใจผมอยู่บ้าง เราคาดว่าการอัพเดท ซอฟแวร์ patch จะทำให้เกมดีขึ้น เพราะตอนแรกไม่ได้อัพ และเราอัพpatch OTG ที่เขียนเกี่ยวกับ fix some bug touch screen issue หลังจาอัพก็ดีขึ้นจริง แต่ก็ยังเจออยู่บ้างครับ คงต้องรออัพอีกครั้ง
การเล่นเกมต่าง ๆ มี game space เข้ามาช่วยจัดการทั้งเร่งความแรงของ กราฟฟิค เคลียร์RAM จัดการสายโทรเข้า ข้อความการแจ้งเตือนต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งบล็อกสายโทรเข้าก็ทำได้ครับ เพื่อให้เกมเมอร์ผู้มุ่งมั่นได้เต็มที่กับเกมไม่มีสิ่งอื่นมากวนใจ
แต่ถ้าจำเป็นต้องตอบข้อความจริง ๆ หรือให้สายโทรเข้าได้ ตัวเกมก็ยังดำเนินไปอยู่นะไม่ได้ถูกpauseหรือเด้งออกจากเกม สามารถใช้การตอบข้อความแบบหน้าต่าง pop up ได้ด้วย แฟนข้อความมาจังหวะที่เราโดนkillหรือรอโหลดจะได้ตอบข้อความกลับได้ทัน และสะดวก
กล้อง
กล้องเป็นหัวข้อสำคัญที่เราต้องพูดถึงกับ realme 3 กล้องหน้าขนาด 13 MP F2.0 มาพร้อมกับ AI Beauty ที่จะปรับความสวย เนียนของในหน้าให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
หรือจะปรับด้วยตัวเองก็ได้เช่นกัน
กล้องหลังคู่ 13 MP F1.8 + 2 MP Depth sensor พร้อมฟีเจอร์ Chroma Boost ที่ช่วยทำให้ภาพมีสีสันที่สดใส และ Nightscape สำหรับเก็บภาพยามค่ำคืนให้สว่างสดใส
กล้องหลัง 13 MP จากการถ่ายทดสอบพบว่าคุณภาพของไฟล์เก็บรายละเอียดได้ดี ตัวอย่างเช่นภาพโถงกว้างที่มีต้นไม้หลากหลาย
ฟีเจอร์ Chroma Boost ช่วยเพิ่มสีสันให้สดใสขึ้น เช่นตัวอย่างของภาพนี้จะเห็นว่าสีสันที่ถูกเพิ่มขึ้นมีความอิ่มและเพิ่มทุกสี ไม่ใช่เฉดสีใดเฉดสีหนึ่ง
แต่การเพิ่มสีให้สดใสนั้นก็ยังทำอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ต้นไม้สีเขียว ที่ควรเป็นเขียวแบบต้นไม้ ไม่ใช่เขียวจนน่ากลัว ก็ยังทำได้ดี
หรืออย่างกล้องหลังที่มีระบบ AI ช่วยวิเคราะห์scene ต่าง ๆ อย่าง food และ Chroma Boost ก็ทำให้สีสเต็กเนื้อดูน่ากินขึ้น และยังอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงเช่นเดิม
เช่น เปลวไฟของถ่ายสีแดงส้ม ก็ยังคงแดงส้ม และสีของเนื้อที่ออกแดงอมชมพูก็ยังเป็นเนื้ออยู่ ถือว่าทั้ง AI และ Chroma Boost ใช้งานได้จริง
Chroma Boost จะวิเคราะห์ภาพและปรับแต่งโดยอัตโนมัติหลังจากเรากดซัตเตอร์
การถ่ายบุคคลกล้องหลังทำได้ดีทั้งกลางวันและที่แสงน้อย เพราะมีรูรับแสงให้ที่ F1.8 ทดสอบใน Portrait Mode มีลูกเล่นนึงที่น่าสนใจครับ
ผมนำไปถ่ายรูปปั่นหินหน้ารัานอาคารซึ่งเจ้ารูปปั่นนี้ มีความสูงพอกับมนุษย์ (ประมาณ 150-170 cm) วางเรียงกันอยู่ ผมเปิด Portrait Mode จิ้มที่ตัวแรกแล้วกดถ่าย
นี่คือภาพที่ได้ครับ กล้องตัวที่ 2 depth sensor ทำงานออกมาได้ดี ในระยะภาพปกติ ไม่ซูมดูสามารถแยก หินก้อนหน้าออกจากฉากหลังได้ชัดเจนมา อาจจะมีการฟุ้งของขอบภาพบ้าง
แต่ที่เจ๋งคือ ตัวที่ 2-3-4-5 มีการเบลอที่ไม่เท่ากัน ลองสังเกตดูครับ มันจะมี Depth of Field ที่ หนาขึ้นเรื่อย ๆ คล้ายกับการถ่ายด้วยกล้องถ่ายภาพจริง ทำให้ดูการเบลอใกล้เคียงกับการเบลอด้วยกายภาพของเลนส์มากขึ้น (เพราะโหมด Portrait ของ smartphone บางรุ่น จะเบลอเท่ากันทั้ภาพ นอกจากตัวแบบคล้ายทำจากphotoshopแบบง่าย ๆ)
จุดนี้คืออีกจุดของการถ่าย Portrait Mode ของ realme 3 ที่ทำได้ดีกว่าคู่แข่ง
แต่อย่างที่บอกไปครับการตัดขอบวัตถุแม้จะทำได้ดี แต่ก็มีฟุ้งอยู่บ้างครับ
ขอข้ามไปที่กล้องหน้า Portrait นิดนึงก่อน 13 MP เท่ากัน ต้องบอกว่า AI Beauty กล้องหน้าที่ได้รับเทคโนโลยีมาจาก OPPO นี่คือใสจริง ๆ ใครชอบความใสของกล้องหน้า OPPO ฟรุ๊งฟริ๊ง ๆ realme 3 ก็ให้คุณได้ ใส ผิวสุขภาพดี ปากอมชมพู ตาโต และดูดีกว่าตัวจริงในแนวฟรุ๊งฟริ๊ง ปกติสาว ๆ จะชอบกล้องหน้าแบบนี้ ส่วนตัวผมคิดว่ามันเร่งตาผมโตไปนิด แต่ผมตาตี่หนะสิ
กลับมาที่กล้องหลังกับ Nightscape เป็นการถ่ายแบบstack layer คือถ่ายหลาย ๆ ภาพมาซ้อนกันแล้วใช้ AI ช่วยรวมภาพทำให้ภาพส่วนที่มืดสว่างขึ้นและส่วนที่สว่างก็ยังคงเดิมไม่จ้าจนเกินไป
ผลลัพธ์คือได้ ภาพตอนกลางคืนที่สวยและมีแสงที่กลมกล่อม โดยโหมดนี้ต้องถือกล้องไว้ 4 วินาที+- แต่จากการทดสอบก็ไม่ต้องเกร็งอะไรมากมายครับ ใช้มือถือถ่ายก็ยังนิ่งอยู่
สุดท้ายเรื่องแบต แบตที่ให้มาก้อนใหญ่ขนาด 4,230 mAh ถือว่าให้เยอะจุใจ ปกติmaxmaxก็ 4,000 mAh เรียกได้ว่าใครอยากได้แบตก้อนใหญ่ต้องชอบ Helio P60 ขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องการจัดการพลังงาน realme 3 มีเทคโนโลยี AI Power Manager ช่วยตัดการพลังงานอีก ทำให้การใัช้งานแบปกติทั้งวันบนอยู่ได้แบบสบาย ไม่ต้องพกpower bank หรือกังวลว่าแบตจะไม่พอใช้ถึงเย็น
อย่างตัวอย่างคือเล่น PUBG ได้สูงสุดถึง 12.4 ชั่วโมง และดูเว็บไซต์ได้ถึง 18.9 ชั่วโมง ในขณะที่แบรนด์อื่นสักรุ่นหนึ่งที่ใช้แบต 4,000 mAh ทำได้เพียงราว 10ชั่วโมงเท่านั้น และจุดนึงที่เราต้องทราบกันก็คือ realme 3 รองรับการชาร์จเข้าผ่าน adaptor 5V2A = 10W เท่านั้น คำแนะนำคือใช้ทั้งวันและกลับมาชาร์จตอนนอนทีเดียวครับ
สรุป realme3 ถือเป็น Smartphone ที่มีราคาจับต้องง่ายเพียง 4,590.- สำหรับรุ่น RAM 3 GB ROM 32 GB และ 5,990.- สำหรับรุ่น RAM 4 GB ROM 64 GB ทั้งสองรุ่นเพิ่ม Micro SD Card ได้สูงสุด 256 GB / ถามว่าซื้อรุ่นไหนดีแน่นอนครับ งบถึงไป 4 + 64 GB ก็ยืดหยุ่นกว่า แต่ รุ่น 3 + 32 GB ก็ถือว่าใช้งานพื้นฐานได้ไม่ต่างกัน เพียงแต่ไม่เปิดแอพค้างไว้เยอะ หรือลงเกมไม่เยอะ
กล้องหน้าหลังความละเอียดเท่ากัน 13 MP มาพร้อมAIทั้งคู่ ถือเป็นจุดขายของรุ่นนี้เช่นกัน บิวตี้เกลี่ยผิวได้เนียนใสแบบฟรุ๊งฟริ๊งทั้งกล้องหน้าและหลัง การเบลอหลังทำได้ค่อนข้างดีมากในเรทราคานี้
และChroma Boost ที่ช่วยเพิ่มสีสดภาพให้สดใส และ Nightscapeที่เก็บแสงยามค่ำคืนได้กลมกล่อมก็ใช้งานได้จริง ภาพไม่ดูหลอก เป็นฟีเจอร์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้
ทั้งหมดนี้ขับเคลื่นด้วย Helio P60 with AI Chipset ที่ดีได้ตามสั่งผมมักชมมันมาตลอดว่ามันคือม้ามืดที่จะให้ประหยัดพลังงานก็ได้ จะสั่งให้แรงก็เร่งแรงถวายชีวิต มันประหยัดแบตมากเมื่อใช้งานปกติ
ในทางกลับกันก็เล่นเกมอย่าง ROV ได้แตะ 60 fps / 50 fps++ ตลอดทั้งเกม แต่ก็แลกมาด้วยความร้อนที่สูงไปบ้างเกินกว่าค่าที่เราตั้งไว้ประมาณ 2-3 องศา
ผูกเข้ากับแบตก้อนใหญ่เบิ้ม 4,230 mAH ที่เพียงพอต่อการใช้งานตลอดทั้งวัน realme 3 เหมาะกับคนที่กำลังมองหา smartphone ราคาประหยัดฟีเจอร์ที่ใช้งานหลักสำหรับชีวิตประจำวันและลูกเล่นที่ใช้งานได้จริงเช่กนัน ก็ให้มาหลากหลาย มี AI เข้ามาช่วยในหลายด้าน ส่วนสีมีให้เลือก 3 สี คือ Dynamic Black / Classic Black / Radiant Blue
ช่องทางจำหน่าย Online เช่น LAZADA realme LAZMall
ถ้าใครสนใจและพร้อมผูกโปรกับ Truemove H ก็มีราคาเริ่มต้นเพียง 2,490.- เท่านั้น