รีวิว Xiaomi Air Purifier 3H ดีกว่ารุ่นเดิมยังไง และเลือกรุ่นไหนดี


ทุกวันนี้ประเทศไทยอาจไม่ได้ค่ามลพิษทางอากาศที่สูง ยกตัวอย่างเช่น Bangkok Air Index ที่วัดคุณภาพอากาศ PM2.5 ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี


แต่ในชีวิตประจำวันเราเจอกับอากาศที่มีสิ่งปนเปื้อนได้ตลอด อากาศในบ้านก็เจอกับฝุ่นเล็กใหญ่ที่มาจากนอกบ้าน ขนสัตว์ สารระเหย สารก่อภูมิแพ้ แบคทีเรีย ไวรัสต่างๆ ที่มีอยู่ทุกฤดูไป


Xiaomi Air Purifier 3H รุ่นใหม่ ดีกว่ารุ่นเดิม Xiaomi Air Purifier 2S ยังไง วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟัง

เริ่มต้นขอนิยามว่า กรองดีขึ้น ห้องใหญ่กว่า ดีสมัยทันสมัย

3H มีระบบกรองอากาศที่ดีกว่าเดิมซึ่งมีการออกแบบดีไซน์ใหม่ทั้งหมด


เริ่มต้นตั้งแต่ไส้กรองรุ่นใหม่สีเทาสามารถกรองฝุ่นได้ละเอียดกว่าบนมาตรฐาน HEPA Class13 เมื่อเทียบกับรุ่นเดิมเป็นเพียง EPA Class12 ผลลัพธ์คืออากาศบริสุทธิ์ที่ปล่อยถูกฟอกแล้วจะมีโอกาสเล็ดลอดของฝุ่นละอองขนาดเล็กได้น้อยกว่าถึง 10เท่า! จากความหนาแน่นของไส้กรองที่ละเอียดกว่า

ไส้กรองสีเทารุ่นใหม่ประกอบด้วย 3 ชั้น


1.ชั้นแรกที่คล้ายมุงลวดทำหน้าที่กรองฝุ่นหยาบ เส้นผม ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ ช่วยลดภาระให้ฟิลเตอร์ละเอียดด้านในใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น


2.ชั้น HEPA Filter ที่คอยกรองฝุ่นพิษ PM2.5 หรือแม้กระทั่ง PM 1.0 หรือฝุ่นและสสารระดับ 0.3 ไมคร่อน ก็สามารถกรองได้ รวมถึงดักจับ สารก่อภูมิแพ้ แบคทีเรีย ไวรัส กลิ่นที่มีอนุภาคใหญ่ เช่น กลิ่นบุหรี่ กลิ่นควันไฟ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


3.ชั้น Activated Carbon หรือถ่านกัมมันต์ ดูดซึมกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ กลิ่นตัว กลิ่นสัตว์เลี้ยง สารฟอร์มาดีไฮด์ และสารระเหยกลุ่ม TVOCs


จะเห็นว่าด้วยฟิลเตอร์ที่หนาแนน่นกรองได้เยอะ


Xiaomi จึงต้องออกแบบพัดลมให้ที่ดูดได้แรงขึ้น เพื่อให้อากาศไหลผ่านไส้กรองได้ แต่เงียบขึ้น 

พัดลมเดิม ผมเคยใช้คำว่าพัดลมบ้านๆ ใช่ครับรุ่น 2S เป็นใบพัดธรรมดาๆที่ตักอากาศให้ไหลผ่านไส้กรอง


แต่รุ่นใหม่ 3H ออกแบบชุดพัดลมให้เป็นใบตักคล้ายกับใบเทอไบน์เครื่องเจ็ทของเครื่องบิน Centrifugal Fan

ทำงานประสานกับ brushless motor ที่จะดึงอากาศได้มากกว่า และตามหลักอากาศพลศาสตร์ก็จะเงียบขึ้นนิดนึง (จากการทดสอบจริงคือเสียงหึ่งของอากาศจะหายไปพอสมควร)
สุดท้ายปล่อยอากาศบริสุทธิ์ผ่านช่องด้านบนที่ “กว้างกว่าเดิม” ของเดิมจะเป็นแบบกลมและเหลือพื้นที่ว่าง3เหลี่ยมตามมุมทั้ง4ด้าน รุ่นใหม่ 3H ขยายพื้นที่อากาศออกให้เต็มสี่เหลี่ยม
ผลลัพธ์คือเพิ่มประสิทธิภาพการฟอกอากาศจาก 310 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง เป็น 380 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง (เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 22%)

และรองรับพื้นที่ห้องขนาด 45 ตร.ม.​ โดยปกติทั่วไปแล้วไม่ว่าคอนโดหรือบ้านพักอาศัยใน1ชั้น หักห้องน้ำ หักระเบียงออกก็มักจะไม่เกิน 45 ตร.ม. ดังนั้นแปลว่าเครื่องเดียวก็ครอบคลุมการใช้งานได้ทั่ว


เรื่องของสเปคฮาร์ดแวร์พูดไปครับแล้วครับ มาที่ดีไซน์บ้าง xiaomi air purifier 3H ย้ายปุ่มควบคุมจากด้านบนมาไว้ที่ด้านหน้าตรงหน้าจอ OLED ใช้ระบบtouch screen ที่ดูล้ำกว่าเดิม หน้าจอสามารถแสดงค่าฝุ่น PM2.5 เป็นตัวเลขและ3สีตามระดับความอันตรายจาก particle sensor ที่อยู่ด้านหลังเครื่องคล้ายรุ่นเดิม แต่ความพิเศษรอบนี้ นอกจากจะใช้ระบบสัมผัสเพื่อดูข้อมูล ปรับโหมดต่างๆ ได้แล้ว คือเราสามารถปรับความแรงพัดลมเบอร์ 1-2-3 ได้เลย ในตัว ถือว่าสะดวกกว่ารุ่นเดิมมาก

ที่จะปรับความเร็วพัดลมต้องเซ็ตผ่านโหมดจากแอปพลิเคชั่นเท่านั้น

แน่นอนครับการควบคุมผ่านแอปพลิเคชั่น Xiaomi Home ผ่านอินเตอร์เน็ตทำได้เหมือนเดิม


Xiaomi บอกว่าอากาศบริสุทธิ์ภายในบ้านนี้ขอพื้นที่ตั้งเพียงราวกระดาษA4แผ่นเดียว (24x24cm.) เท่านั้น


คำถามสำคัญคือแล้วไส้กรองสามารถเปลี่ยนใช้กับรุ่นเดิมได้ไหมคำตอบคือ “ได้” จะเป็นไส้กรองสีเขียว สีม่วง ใช้ได้หมดครับ แต่ใช้กรองรุ่นใหม่สีเทาที่แถมมาจะโดดเด่นกว่าด้วยความเป็น HEPA Class13 ที่หนาแน่นและประสิทธิผลของอากาศบริสุทธิ์ดีกว่า


และเมื่อถามว่าควรซื้อรุ่น 3H ไหมถ้าเราใช้รุ่น 2S อยู่แล้ว เพราะราคาจำหน่ายก็ไม่หนีกันมาก
คำตอบคือ ถ้าคุณใช้รุ่น 2S อยู่แล้วและเลือกใช้ไส้กรองสีม่วง สีเขียว และพึงพอใจกับมัน คุณไม่จำเป็นต้องอัปเกรดมาเป็นรุ่นใหม่ก็ได้ เพราะถ้ารุ่นใหม่ใส่ไส้กรองเดิม ก็ให้ผลลัพธ์ที่เหมือนกันแต่ถ้าคุณต้องการใช้ไส้กรองสีเทาใหม่ หรือกำลังมองหา Xiaomi Air Purifier เครื่องใหม่ผมเชียร์ให้เป็นรุ่น 3H เลย จะทันสมัยกว่า กรองได้ดีกว่า และเผื่ออนาคตได้มากกว่าครับ


ใครที่สนใจเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Air Purifer 3H สามารถสั่งซื่อออนไลน์ได้ที่นี่ครับ
 Lazada : https://bit.ly/2NQ301q Shopee : https://bit.ly/3hS5sSQ

%d bloggers like this: