Tokyo trip กับ Huawei Mate 20 Pro 100ภาพนี้จะทำให้คุณหลงรัก
กลางเดือนธันวาคมประเทศญี่ปุ่น โตเกียว กำลังเป็นช่วงอากาศเย็นไม่มีหิมะตก (2-10 องศา) ในทริปนี้ผมได้นำ Huawei Mate 20 Pro ไปด้วย ตลอดเวลา 5 วันไม่น่าเชื่อว่าผมจะไม่ได้ใช้กล้องถ่ายรูปที่พกไปด้วยเลย การถ่ายภาพทั้งหมดมาจาก Huawei Mate 20 Pro ทั้งหมด
ในด้านสเปคกล้องหลังของ Huawei Mate 20 Pro มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera CO-engineering LEICA ถ่ายภาพได้สูงสุดถึง 40 ล้านพิกเซล
40 MP, f/1.8, 27mm (wide), 1/1.7″, PDAF/Laser AF
20 MP, f/2.2, 16mm (ultrawide), 1/2.7″, PDAF/Laser AF
8 MP, f/2.4, 80mm (telephoto), 1/4″, 5x optical zoom, OIS, PDAF/Laser AF
โดยภาพทั้งหมดถ่ายด้วยตัวผมเอง ไม่มีการตกแต่ง-เพิ่มสี,แสง,ตัวแปรอื่นใดๆ ที่ทำให้ภาพดูดีขึ้น ไม่มีการถ่ายด้วยsmartphone เครื่องอื่นหรือกล้องอื่นใด ขอเอาเว็บ3PAT Review เป็นหลักประกัน ถ้าสังเกตให้ดี ๆ บางภาพที่เอียงผมก็ไม่มีการcropแก้ไข จบหลังกล้องอย่างไรก็มาเช่นนั้น
ขอเกริ่นนิดนึง ผมไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพ งานหลักคือ Blogger สาย IT บทความนี้มีสโลแกนคือ Huawei Mate 20 Pro ยกแล้วถ่าย ใคร ๆ ก็ถ่ายภาพสวยได้ บทความเน้นไปที่ผลลัพธ์คือภาพถ่ายที่ได้นะครับรีวิวและสเปคอื่น ๆ ละเอียดหลายท่านน่าจะเคยผ่านตากันมาแล้ว และขอยกบทความแบบละเอียดเกี่ยวกับกล้องไว้ล่างสุด ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลย
1.หมวดภาพoutdoor ทั่วไปจากการที่ Huawei Mate 20 Pro ให้กล้องหลังมา 3 ตัวและตัวที่ถ่ายได้มุมมองใหม่ที่สุดคือระยะ Ultra-wide 104 องศา คุณสามารถเก็บภาพได้กว้างกว่าเดิม ภาพอาจมีการบิดป่องเล็กน้อยจากกายภาพของเลนส์ซึ่งก็เป็นเอกลักษณ์ของเลนส์มุมมองกว้างถ้าใครไม่ชอบก็สามารถปรับแก้หลังถ่ายกันได้ด้วยแอพพลิเคชั่น และเลนส์ระยะปกติมีรูรับแสงกว้าง F1.8 เน้นเก็บภาพคมชัดแถมยังถ่ายในที่แสงน้อยได้สว่าง
2.หมวดอหารการกิน กองทัพต้องเดินด้วยท้อง การถ่ายภาพอาหารก่อนรับประทานเป็นสิ่งที่สาว ๆ หลายคนต้องแชะก่อนเสมอ Huawei Mate 20 Pro มี AI เข้ามาช่วยเมื่อเป็นอาหารก็จะปรับเป็น Food Mode อัตโนมัติ (เปิด-ปิดได้) และยังวิเคราะห์ซีนอื่น ๆ ได้กว่า 1500 ซีน ภาพถ่ายอาหารส่วนใหญ่จะถ่ายจากเลนส์ระยะปกติครับเพื่อเน้นความคมชัด
3.หมวดสถานที่แลนมาร์คและการถ่ายทั่วไป เชื่อว่าหลายคนอาจเคยไปมาแล้วลองเทียบภาพที่ได้กับภาพที่คุณเคยถ่ายดูครับ
สำหรับสิ่งของ-สถานที่ที่อยู่ไกล Huawei Mate 20 Pro มาพร้อมกับกล้องหลังอีกตัวที่สามารถถ่าย optical zoom ได้ 3X หรือ Hybrid zoom 5X ได้โดยไม่เสียรายละเอียด
4.Seflie Mode กล้องหน้าของ Huawei Mate 20 Pro มาพร้อมกับกล้องหน้า 24 MP F2.0 เก็บภาพได้เป็นธรรมชาติดีครับ และเอาตรง ๆ เวลาถ่ายคุณอาจจะต้องกลั้นหายใจนิดนึงจะได้ภาพที่สวยและไม่ไหวเบลอ
ในที่แสงน้อยก็ถ่ายได้สว่างดี บิ้วตี้ที่เข้ามาช่วยจะเป็นแนวใส ๆ สุขภาพดีค่อนไปทางธรรมชาติมากกว่าฟรุ้งฟริ๊ง
5.หมวดที่แสงน้อยและเปิด Night Mode เป็นส่วนใหญ่ โหมดนี้ต้องยก Mate 20 Pro ค้างไว้ราว ๆ 2-8 วินาที แต่ไม่ต้องกลัวภาพสั่นไหว AI Master จะเข้ามาช่วย และยังทำให้ภาพส่วนที่มืดสว่างขึ้นในส่วนที่สว่างก็ไม่จ้าจนเกินไป
ควรใช้ถ่ายกับภาพที่ไม่ค่อยมีสิ่งที่เคลื่อนไหวนะครับ เจ้าโหมดนี้แหละครับที่ทำให้ภาพกลางคืนสว่างขึ้นได้ราวกับมีเวทมนต์และทำให้ผมหลงรักตั้งแต่สมัย P20 Pro เป็นต้นมา โหมดนี้จะถ่ายสนุกมากถ้าคุณถ่ายในเมืองหลวงที่มีไฟสว่างสลับกับความมืดที่ปกคลุมอยู่
6.หมวด หน้าชัดหลังเบลอ ละลาย หมวดนี้ภาพอาจไม่เยอะนะครับ
ถ่ายคนผมใช้ Portrait Mode กล้องหลัง ขออภัยที่นายแบบไม่กล้าโชว์หน้า
และยังสามารถเล่นระยะให้ชัดหน้าชัดหลัง เบลอตรงไหนก็ได้ทั้งก่อนและหลังถ่ายด้วย aperture mode ประมาณว่าถ่ายก่อนโฟกัสที่หลังและจะปรับเบลอมากหรือน้อยก็ได้อีก
7.เล่นกับฟิลเตอร์ จริง ๆ แล้ว Huawei Mate 20 Pro มีโหมดและฟิลเตอร์ต่าง ๆ ให้เล่นอีกมายถ้าอธิบายหมด บทความนี้จะยาวขึ้นอีก 3 เท่า ผมเอามาให้ดู2อันและกัน
8.โหมดอิสระเพิ่มเติม กล้องสามารถเก็บรายละเอียดได้ดีและคมชัดมากครับ ถ่ายได้สูงสุดถึง 40 MP ไฟล์ภาพต้นฉบับที่ยังไม่ได้ย่อมีขนาดใหญ่ถึงเกือบ 10 MBเลยทีเดียว
และแล้วก็ถึงวันที่เราต้องกลับบ้านทั้งหมดนี้คือภาพถ่ายที่ได้จาก Huawei Mate 20 Pro ที่ไม่ได้มีการตกแต่งใด ๆ เพื่อประโยชน์ของภาพเพื่มเติมเลย และคุณสามารถถ่ายได้ด้วยคุณภาพแบบเดียวกันบน Mate 20 X เพราะใช้กล้องโมดูลเดียวกัน และ Mate 20 ก็ทำได้ใกล้เคียงจากการ Co-Engineering กับ LEICA เหมือนกัน
ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยว ไม่อยากแบกกล้องแบกเลนส์ให้หนัก Huawei Mate 20 Series ผมถ่ายได้..คุณก็ถ่ายได้ ภัทร-3PAT
—–ข้อมูลเพิ่มเติม https://consumer.huawei.com/th/phones/mate20/ ——
——-ตรงนี้คือข้อมูลที่ละเอียดขึ้นเกี่ยวกับกล้องถ่ายภาพ Huawei Mate 20 Series———
ความโดดเด่นที่สุดคือกล้องระยะ Ultra-wide 104 องศาที่สามารถเก็บภาพได้มุมมองกว้างกว่า ในที่แคบๆที่คุณถอยหลังไม่ได้แล้วก็ยังสามารถเก็บภาพและได้มุมมองที่แตกต่าง เชื่อไหมครับว่าในทริปTokyoนี้ ผมใช้ระยะ wide(ขอเรียกสั้น ๆ ) เป็นส่วนใหญ่ และหากเทียบคุณภาพไฟล์ ความคมชัดและความสว่างของภาพแล้ว ณ เวลานี้ Huawei Mate 20 Series เป็นตระกูลเดียวที่ทำให้ได้ภาพจริงเพียงแค่ ยก และ ถ่าย จาก Dual NPU ช่วยประมวลผลด้าน AI ในchipset KIRIN 980 ก็ได้ภาพสวย ๆ แบบนี้
“สิ่งใดที่ทำให้ผมยอมเก็บกล้องถ่ายภาพและเลือกใช้ Huawei Mate 20 Pro”
ขอพูดแบบเข้าใจง่ายเลยแล้วกันนะครับ ด้วยความไวของ Kirin 980 หน่วยประมวลผล AI จะช่วยเราหมดเลยครับ ทั้งการทำให้ภาพไม่สั่นไหว โทนสีของภาพ ความสว่าง ความคมชัด วิเคราะห์ได้กว่า 1500 ซีนใน 25 หมวดหมู่โดยอัตโนมัติ ถ้าคุณดูที่สเปคดี ๆ กล้องหลัง และกล้อง ultrawide ไม่มี OISกันสั่นมาให้นะครับ แต่ภาพที่ผมถ่ายได้แทบจะไม่มีภาพเสียจากการสั่นไหวเลย ยก และ ถ่าย เท่านั้น
โหมดที่ผมชอบที่สุดและทำให้ผมรู้สึกเซอไพร้ตั้งแต่ครั้งแรกเห็นซึ่งทำได้ตั้งแต่ P 20 Series คือ Night Mode
Night Mode เป็นการถ่ายแบบstack ใช้การเปิด speedshutterที่นานและค่าต่อเนื่อง และเก็บไฟล์ภาพไว้เป็นชั้น ๆ ภาพถ่ายแรก ๆ จะเก็บเค้าโครงต่าง ๆ และต่อ ๆ มาก็จะนำภาพใหม่มาซ้อนแน่นอนว่าเราจะได้ภาพที่สว่างขึ้น ๆ ๆ AI เข้ามาช่วยให้ตรงไหนที่มืดก็เร่งให้สว่าง ตรงไหนที่สว่างจ้าอยู่แล้ว เช่นดวงไฟก็ยังคงให้ความสว่างเท่าเดิมไม่เร่งเพิ่ม
วิธีนี้เราต้องยกถ่ายถือค้างไว้ ราว ๆ 2-8 วินาทีโดยประมาณ ยิ่งมืดมากก็ยิ่งนาน ทุกคนก็จะบอกว่าใครจะถือได้นานขนาดนั้นภาพสั่นไหวหมด
AI จะเข้ามาช่วยอีกครั้ง ฉ็อตแรก ๆ ที่เก็บเค้าโครงไว้ ฉ็อตท้าย ๆ ที่มือเราเริ่มสั้นก็จะเป็นการให้สีแก่ภาพเสียมากกว่า
ผลลัพธ์คือได้ภาพที่perfect ไม่สั้นไหว สว่างกลมกล่อมทั่วทั้งภาพ และโทนสีที่สวยเวอร์วัง นำไปใช้งานได้ทันที โดยที่ไม่ต้องพึ่งโปรแกรมแต่งภาพอย่าง Photoshop และ Lightroom ทำให้คนธรรมดาที่แต่งภาพไม่เป็นก็เพียงแค่ “ยก ถ่าย – อัพขึ้นโซเชี่ยล”
เหตุผลต่อมาที่ไม่ได้หยิบกล้องถ่ายภาพขึ้นมาใช้คือ Huawei Mate 20 Pro และ Mate 20 X ที่มีโมดูลกล้องตัวเดียวกัน สามารถzoomได้สูงสุด hybrid zoom ที่ 5x แบบไม่เสียรายละเอียด ในแอพกล้องคุณจะเห็นว่าระยะzoom วิ่งได้ตั้งแต่ 0.6x – 5x กันเลยทีเดียว ไม่ต้องมีเลนส์ยืดหดได้ ไม่ต้องพกเลนส์หลายตัวให้หนัก Mate 20 Pro กับน้ำหนัก 190 กรัม ตัวเดียวตอบโจทย์ผมได้ หากเทียบระยะที่ถ่ายได้กับกล้องฟิล์ม 35mm คุณจะได้ระยะที่ 16-80 mm !! นี่คือระยะมหาชนที่ดีที่สุดถ้าใครเล่นกล้องจะทราบดี
ในโหมด portrait ผมอาจจะไม่ได้ทดสอบมากนักเพราะไปคนเดียว มีเพื่อนที่อาสาเป็นไกด์ให้บ้างเป็นครั้งคราวก็ไม่อยากออกสื่อ อย่างไรก็ตามถ้าคุณต้องการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ บน Huawei Mate 20 Series ไม่จำเป็นต้องบังคับเลือกเป็นโหมดนี้อย่างเดียว เพราะมี Aperture Mode มาให้
โหมดนี้จะเป็นการใช้ซอฟแวร์ช่วยปรับหน้าชัดหลังเบลอคล้ายกับการใช้กล้อง fกว้าง โดยเลือกได้ตั้งแต่ aperture 0.95 (คล้าย f0.95) ไปจนถึง 16 เมื่อคุณถ่ายมาในโหมดนี้ยังสามารถเลือกจุดโฟกัสหลังถ่ายได้อีกด้วย ชัดหน้า-ชัดหลัง เบลอมาก-น้อยปรับหลังถ่ายได้เลย
ยังยังไม่หมดครับ อีกฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผมใช้งานมันแทนกล้องได้ รู้สึกเที่ยวสนุกขึ้นไม่ต้องแบกหนัก คือการถ่ายภาพระยะ super macro 2.5 cm เฮ้ย ๆ ๆ เดี๋ยว ถ้าเป็นกล้องถ่ายภาพนี่ต้องซื้อเลนส์ macro แยกนะ อันนี้คือแค่ยื่นsmartphoneไปใกล้ ๆ วัตถุก็ถ่ายได้เลย ชัดมากกกก ยอมรับตามตรงฮะผมยังไม่เข้าว่าเค้าใช้เทคนิคอะไรที่ทำให้ถ่ายได้ใกล้แบบนี้
เช้าวันที่3ผมไปกินเนื้อย่างกับเพื่อนเดินผ่านตู้จดหมายสีแดง ตอนนั้นฉุดคิดถงึพี่เต๋อ นวพลขึ้นมาทันที ผมลองถ่ายตู้จดหมายนี้ด้วยโหมด Auto ภาพที่ได้ออกมาก็คมชัดและ wihte balance ถูกต้องดีครับ แต่เอ….มันมีอะไรขาด ๆ ไป ตู้ไปรษณีย์สีแดงมาอยู่กลางเมืองที่มีความเจริญล้ำหน้าในยุคที่การส่งข้อความง่ายเพียงปลายนิ้ว ผมอยากได้ภาพที่คอนทราสสักหน่อย จึงปรับโหมดไปที่ More และเลือกfillter มาใส่ให้ดูโทนสีย้อนยุคร่วมสมัยเป็นราวปี 80 หรือถ้าใครชอบโทนสีขาวดำ monochrome Mate 20 Series ก็สามารถทำได้เป็นการใช้ซอฟแวร์ปรับนะครับ ก็ให้โทนสีละม้ายคล้าย LEICA อยู่ไม่น้อยเลย
และยังมีโหมดต่าง ๆ ให้เลือกอีกเช่น Panorama / Light painting ไฟวิ่ง / HDR / Slow-mo สามารถ download โหมดอื่นเพิ่มเติมได้อีก แอพพลิเคชั่นกล้องจาก Huawei ถือว่ามีลูกเล่นที่มากที่สุดแอพนึงและใช้งานได้จริงทั้งหมด
กล้องหน้า 24 MP f2.0 ในความรู้สึกของผมแล้ว ถ้าอยู่ในที่กลางแจ้งผมชอบนะ ปรับหน้าได้เนียนสวยไม่เวอร์จนเกินไป และสามารถละลายหลังได้ในโหมด Portrait แต่ในร่มผมยังรู้สึกว่ามีความฟุ้งไปบ้าง กลางแจ้งนี่ต้องยอมจริง ๆ ครับ กล้องหน้านี่พูดยากว่าสวยหรือไม่สวย อยู่ที่ชอบหรือไม่ชอบตามแต่บุคคล ไปดูกัน
พลัง AI ที่เหลือล้นยังไม่จบครับ ด้วยผล Antutu เกิน300,000
การถ่าย VDO มาพร้อมกับลูกเล่นพิเศษคือ Hollywood like effect
ที่โดดเด่นคือ
AI Color เป็นการดูดสีฉากหลังทิ้งให้ตัวแบบโดดเด่น สามารถวิเคราะห์คนได้มากกว่า 1 คน ราวกับหนังย้อนเวลากลับไปในอดีต อันนี้ว้าวและสนุกมาก
Background blur เป็นการเบลอฉากหลังให้ละลาย แบบโดดเด่น
ทั้งคู่สามารถทำได้แบบ realtime ยอมรับว่าCPUแรงจริงถึงสามารถทำแบบนี้ได้ การใช้งานจริงพบว่าต้องมีการวางแบบและฉากหลังที่ไกลกันพอสมควรและโล่งมาก ๆ ถึงทำให้ถ่ายได้สนุก
แบตและระยะเวลาการใช้งาน Huawei Mate 20 Pro มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 4,200 mAh และเทคโนโลยีการชาร์จไวโคตร ๆ Huawei Super Charge 2.0 10V4A = 40 W ชาร์จแบตได้ 70% ในเวลา30นาที และรองรับ Qi wireless Charging ที่ 15W
การไปญี่ปุ่นของผมถ่ายรูปมาทั้งหมดเกือบ3,000 รูป เฉลี่ยวันละ 500 รูปผมกลับมาชาร์จที่โรงแรมเท่านั้น แมเครื่องจะใช้งานทั้งระบบนำทาง GPS และใส่ซิม 4G LTE เปิด mobile data ฟังเพลงตอนนั่งรถไฟ JR แบตเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องพกpowerbank – ที่ชาร์จก็ได้
เพิ่มเติมให้นิดนึงสำหรับใครที่รู้สึกว่า Mate 20 Series นั้นตอบโจทย์สำหรับสายเที่ยวถ่ายภาพไม่ต้องพกกล้องแล้ว สำหรับการนำทางที่แม่นยำ เชื่อมต่อทั้งความถี่ L1 และ L5 ให้ปฏิบัติงานไปพร้อมกัน ในทริปนี้ Mate 20 Seires แสดงให้เห็นแล้วว่าแม่นยำกว่าsmartphone อีกค่ายอีกระบบปฏิบัติการ เปิดให้จับ GPS พร้อมกันตำแหน่งแม่นยำกว่ารวดเร็วกว่า เวลาไปต่างประเทศเช่นญี่ปุ่นที่ซอยถี่ ๆ แบบนี้มีประโยชน์มาก
สรุปเรื่องกล้องเราให้นาย Mate 20 Pro การไปญี่ปุ่นของผมครั้งนี้เป็นครั้งแรกและผมแทบไม่ได้เตรียมตัวเลย จองตั๋วก่อนบิน3วัน แล้วไปเลย การถ่ายภาพ Mate 20 Pro จัดการให้ผมหมด ผมถอดถุงมือเพื่อให้จับเครื่องได้ถนัดขึ้นและสนุกไปกับการเก็บความทรงจำกับโทนสี LEICA ตั้งแต่ระยะ 2.5 cm จนไปถึงวิวไกลสุดลูกหูลูกตาบน tokyo skytree ผมถ่ายศาลเจ้าด้วยระยะ ultrawide 16 mm จนถึง hybrid zoom 5x เทียบะระ 130 mm ทุก ๆ การถ่ายไม่ได้เปิดโหมด pro เป็นauto ทั้งหมด และภาพทั้งหมด ไม่มีการปรับแต่งแสงสีและอื่นใดที่เป็นประโยชน์ต่อภาพเพิ่มเติม จบหลังกล้องเลย
189 กรัมกับแบต 4,200 mAh ความสนุกและคล่องตัวสำหรับการท่องเที่ยว Huawei Mate 20 Pro คือตัวเลือกที่ดีที่สุดของผมครับ
สำหรับคนที่มองรุ่นอื่นHuawei Mate 20 X สามารถถ่ายภาพได้เทียบเท่ากับMate 20 Pro นะครับ หรือจะเป็น Huawei Mate 20 ก็ทำออกมาได้ใกล้เคียงในโทนเดียวกัน รายละเอียดทอนไปบ้าง และกล้องหลังสูงสุดที่ 20 MP ครับ