กล้อง Huawei P20 pro กับ Samsung Galaxy S9+ วัดกันฉ็อตต่อฉ็อต Noอวย

ตั้งแต่ Huawei P20 Pro เปิดตัวมาพร้อมกับกล้องหลังถึง 3 ตัว พร้อมกับดัน ISO ได้สูงถึง 102400 ในขณะที่ SAMSUNG Galaxy S9+ มาพร้อมกับกล้องหลังคู่เท่านั้น

สเปคกล้องของทั้งคู่
Huawei P20 Pro
-กล้องหลักขนาด 40 ล้านพิกเซล f/1.8, 27mm, 1/1.7″ พร้อม OIS กันสั่น
-กล้องตัวที่สองขนาด 20 ล้านพิกเซล f/1.6, 27mm
-กล้องตัวที่สามขนาด 8 ล้านพิกเซล f/2.4, 80 mm   <<< ซูมเลนส์ 3 เท่า
ซึ่งทั้งหมดมาพร้อมกับเทคโนโลยีจาก Leica (คล้าย ๆ กับลำโพง tuned by AKG ของSAMSUNG นั่นเแหละ)  และระบบ laser autofocus, PDAF

Samsung Galaxy S9+
-กล้องหลักขนาด 12 ล้านพิกเซล f/1.5 และ f/2.4, 26 mm, 1/2.55″ , 1.4 um (ไมโครเมตร) – Dual Pixel PDAF
-กล้องตัวที่สองขนาด 12 ล้านพิกเซล  f/2.4, 52 mm, 1/3.6″ 1 um)
ทั้ง2กล้องมาพร้อม  OIS กันสั่น พร้อม Dual Pixel   โดย Imager Sensor ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Super Speed Dual Pixel ส่งข้อมูลได้เร็วกว่า ทำได้ได้ภาพที่ดีขึ้นจากการส่งข้อมูลภาพได้มากในเสี้ยววินาที และถ่าย Super Slow-mo 960 fps ได้ เช่น การถ่ายภาพกลางคืนสามารถลด noise ลงได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับ S8 โดย S9 | S9+ รวมเอา 12 ภาพย่อยเป็นภาพเดียวในการกดชัตเตอร์เพียงแค่ครั้งเดียว

ในขณะที่ Huawei เทพตรงมี Master AI มาช่วยซึ่งครั้งนี้ต้องยอมใจคำว่า AI ที่ใช้งานได้จริง  โอเคครับอย่างไรก็ตามก็ต้องบอกว่าทั้ง 2 ค่ายภาพที่ออกมานั้นเป็นภาพที่ปรับแต่งจากซอฟแวร์มากอยู่ ดังนั้นการรีวิวครั้งนี้เราจะเน้นที่ output แบบไม่crop เพราะคนส่วนใหญ่ก็คงนำภาพไปใช้บนโซเชี่ยลมากกว่าโปรดักชั่น  ดังนั้นรายละเอียดเชิงลึกมากขอผ่านครับ ไปดูภาพกันเลย

โดยภาพย่อลง 50% จาก Photoshop ใส่ logo 3PAT Review และไม่ทำการprocess ใด ๆ เพิ่มทุกภาพ ภาพที่ไม่มีลายน้ำคือภาพที่ถ่ายจาก S9+

 

 

 

สรุปภาพตอนกลางวันที่ทำได้ ผมยังรู้สึกว่า SAMSUNG Galaxy S9+ ทำได้ดีกว่า ในด้านของการถ่ายใช้งานทั่วไปดูดีไม่หลอกตา ในขณะที่ Huawei P20 Pro มีการใช้ Master AI มากจนเกินไป บางภาพรู้สึกถึงความคมจนบาด  โดยทั้งคู่ถ่ายด้วยโหมด Auto และทัชโฟกัสจุดเดียวกัน  แต่สิ่งที่ S9+ ยังทำได้ออกมาไม่ดีคือ ภาพติดอมเหลืองและถ้าจะให้ภาพสวยต้องเร่ง คอนทราสขึ้นไปอีกสักนิดนง ในที่กลางแจ้ง f/2.4 ทำออกมาได้ดีครับ กล้องหลักของ S9 | S9+ ปรับรูรับแสงได้จึงทำให้เก็บรายละเอียดตอนกลางวันได้ในที่กลางแจ้งได้ดีและง่ายกว่า

 

nfd
nfd

ในส่วนของอาหารผมมองว่าในบางภาพ SAMSUNG Galaxy S9+ ถ่ายได้ดีกว่าโดยภาพที่สีเข้มคือภาพที่ถ่ายจากโหมด Food และภาพสีปกติคือภาพที่ถ่ายจากโหมด Auto
ส่วน Huawei P20 Pro Master AI detect ว่าเป็น Food อยู่แล้วครับ  ดังนั้นถ้าวัดว่ากล้องทั้งคู่ถ่ายด้วย Food Mode แล้ว S9+ ชนะไปอีกครั้ง


คราวนี้มาภาพกลางคืนกันบ้าง



จะเห็นว่า ภาพกลางคืนในโหมดของ night mode ต้องร้องอือหือในขณะที่ S9+ นั้นมืด เมื่อโฟกัสในบริเวณช่วงสว่าง แล้วถ้าปรับ manual หละ

ผลที่ได้คือสว่างจนเกินไป ป้ายไฟนี้จ้าจนไม่เห็นรายละเอียด ในขณะที่บริเวณตึกด้านหลังหรือ รถรางรถไฟฟ้ายังสว่างสู้ไม่ได้

เหตุผลก็เพราะ Huawei P20 Pro นั้นใช้ Master AI มาช่วยในโหมด Night Mode ใช้ stack layer มาช่วย ตรงไหนที่สว่างเกินก็ทิ้งไป ตรงไหนยังไม่สว่างก็ทำให้สว่างเพิ่ม

แต่การจะถ่ายให้ได้สวยแบบนี้ได้ มันไม่ใช่ยกแล้วถ่ายเลยนะ เพราะกล้องจะนิ่งและถือถ่ายค้างไว้ เหมือนการเปิด speed shutter นาน เท่าที่สังเกตถ้าไม่มืดมากประมาณ 4 วินาทีครับ ซึ่งด้วย MASTER AI และ OIS ยังพอถือได้อยู่ แต่ถ้าเป็น MATE 10 Pro คือ 10 วินาทีขึ้นในสาถานการณ์เดียวกัน แปลว่าต้องใช้ขาตั้งกล้องเท่านั้น  ตัวอย่างภาพขวาจะเห็นว่าถ้ามือไม่นิ่งภาพก็เละเลยครับ และแน่นอนว่า วัตถุ objects ต่าง ๆ ในภาพควรที่จะนิ่งด้วย (ทั้งสองภาพนี้ถ่ายด้วย P20 Pro)

ภาพสวต้นไม้นี้เป็นภาพที่แทบจะมืดสนิท เป็นสวนร้างนะครับ แล้วถ่ายข้ามรั้วเข้าไป ในสวนไม่มีไฟ มืดระดับมองด้วยตาเปล่าไม่กล้าเดินเข้าไป และนี่คือภาพที่ได้
ภาพนี้แม้ว่า Huawei P20 Pro จะทำได้สว่างกว่าแต่ภาพดูมีการเร่งความคมชัดจนดูบาด แต่ S9+ ด้วยรูรับแสงกว้าง f/1.5 ถ่ายออกมาได้เป็นธรรมชาติและสดสวยกว่า

 


 

สรุปแล้ว Huawei P20 Pro ทำภาพตอนกลางคืนได้ออกมาดีจริงโดยเฉพาะภาพแบบแล้วมีแสงไฟปน ชนะแบบขาดลอย แต่ต้องใช้ Night Mode ช่วย สิ่งที่ต้องแลกมาคือต้องถือให้มือนิ่งและ วัตถุควรที่จะไม่ขยับ
แต่ในภาพที่มืดมาก ๆ วัตถุไม่ขยับและไม่มีแสงไฟมาปน S9+ จะทำได้เป็นธรรมชาติกว่า เพราะการดัน IOS 102400 ของ Huawei จะทำให้ภาพออกมาเป็นเยลลี่ รวมไปถึงการซูมแบบ Hybrid 5X ด้วยที่ผมว่ายังไม่ได้ประทับใจ แต่ที่ 3X พอใจครับ

ในส่วนภาพตอนกลางวัน outdoor แสงจ้า S9+ คุมแสงได้ดีกว่าแต่ยังมีถ่ายติดเหลืองและเทานิด ๆ ก็น่าจะเป็นข้อมูลให้ทุกท่านเลือกกันได้แล้วหละครับว่า ท่านเหมาะกับตัวไหน
แต่อย่างไรอย่าลืมว่า “กล้อง” ไม่ใช่ปัจจัยเดียวในการซื้อมือถือ เพราะมันคือ”มือถือ”  การใช้งานหลัก การจับถือ ความสะดวกสบาย ROM ฟังก์ชั่นอื่น ๆ ก็ควรนำมาคิดครับ

ภัทร – 3PAT Review

%d bloggers like this: