รีวิว SAMSUNG Galaxy A9 Hands-on 4 กล้องเป็นยังไง
หลังจากที่ SAMSUNG Galaxy A9 ปิดตัวพร้อมกับ SAMSUNG Galaxy A7 ไม่กี่ชั่วโมงเว็บไซต์จีเอสเอ็มอารีน่า ก็จับมารีวิวด้วยความไวเฟร่อในแบบกระชับ ๆ จะเป็นอย่างไรผมจะมาสรุปให้ฟัง
(บริบทในการเขียนครั้งนี้ไม่ใช่การแปลจากต้นฉบับ ประมีบางส่วนที่ต่างกัน ขอเน้นสเปคที่ถูกต้องและคำพูดที่ง่ายเพื่อความเข้าใจของเพื่อน ๆ ชาวไทย)
[adsense]
SAMSUNG Galaxy A9 โดดเด่นด้วยการใส่กล้องหลังมาให้ถึง 4 ตัวเป็นครั้งแรกของโลก นับรวมกล้องหน้าก็เป็น 5 ตัว ซึ่งถ้ารวมพิกเซลแบบขำ ๆ 24+24+8+5+10 จะได้ถึง 71 ล้านพิกเซล
กล้องหลัง 4 ตัวที่ผมมักจะใช้คือว่า กว้าง กลาง ไกล และหลังละลาย มีดังนี้
-กล้องหลัก 24 MP F1.7 PDAF ระยะปกติเน้นคมชัดถ่ายที่แสงน้อยได้ดี
-กล้อง depth sensor 5 MP F2.2 ระยะปกติช่วยกล้องหลักสำหรับถ่าย Live Focus หน้าชัดหลังเบลอ ปรับได้ทั้งก่อนและหลังถ่าย โดยเป็นระยะปกติไม่ต้องถอยไกลอีกด้วย
-กล้องultra-wide 120องศา 8 MP F2.4 12mm ถ่ายภาพมุมมองกว้างพิเศษ
-กล้องซูม 2x optical 10MP F2.4 AF ซูมได้2เท่าแบบไม่เสียรายละเอียด
สามารถถ่ายVDOได้สูงสุดที่ 2160p/30fps
-กล้องหน้า 24 MP F2.0 FF ถ่ายVDOได้สูงสุดที่ 1080p/30fps
ในส่วนของสเปค
• Body: Glass back, metal frame; 162.5 x 77 x 7.8mm, 183g; Caviar Black, Lemonade Blue and Bubblegum Pink color schemes;
- Display: 6.3″ Super AMOLED, FullHD+ 2,220×1,080px resolution Infinity display (18.5:9 aspect ratio), 392ppi pixel density.
- Rear camera: Primary 24MP, f/1.7 aperture; phase detection autofocus. Secondary 8MP, f/2.4 aperture, fixed focus, 12mm ultrawide. Third 10MP, f/2.4 aperture, autofocus, 2x optical zoom telephoto. Fourth 5MP, f/2.2 aperture, depth sensing only. LED flash. 2160p/30fps video recording.
- Front camera: 24MP, f/2.0 aperture; fixed focus; 1080p/30fps video recording.
- OS/Software: Android 8.0 Oreo; Samsung Experience 9.0 custom overlay.
- Chipset: Snapdragon 660: octa-core 4×2.2 GHz Kryo 260 & 4×1.8 GHz Kryo 260, Adreno 512 GPU.
- Memory: 6GB of RAM, 128GB of storage; dedicated microSD slot for expansion.
- Battery: 3,800 mAh Li-Po (sealed); Samsung Adaptive Fast charging.
- Connectivity: Dual SIM; LTE Cat. 9 (450Mbps download/50Mbps upload); USB 2.0 Type-C port; Wi-Fi a/b/g/n/AC; GPS, GLONASS, BDS, GALILEO; NFC; Bluetooth 5.0; FM radio.
- Misc: Rear-mounted fingerprint reader; single speaker on the bottom; 3.5mm jack.
ลักษณะภายนอกมาพร้อมกับหน้าจอแบบไร้ปุ่มโฮม Infinity Display ขนาด 6.3″ FHD+ sAMOLED กระจกหน้าจอและกระจกหลังเป็น Gollira Glass 5 มาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง สีฝาหลังตัวจริงนี่คือสวยมาก เรียบ Lemonese Blue นี่คือไล่สีสวยมาก และยังมีอีก 2 สีเข้าไทยคือ Caviar Black และ Bubblegum Pink ที่ไล่สีสวยเหมือนกัน
Galaxy A9 ให้แบตมาจุใจที่ 3,800 mAh ชาร์จไฟด้วยระบบ Fast Charge ผ่าน USB Type-C รองรับ 2Sim + 1 Micro SD Card แบบ 3 Slot เพิ่มได้สูงสุดถึง 512 GB
[adsense]
ในส่วนด้านของแรง
วัดประสิทธิภาพความแรงของ CPU ด้วย Geekbench 4.1
Single Core : 1595
Multi Core : 5856
และ Antutu Benchmark 7 วัดภาพรวม
ได้ออกมาที่ 141011
ซึ่งเมื่อดูจากผลคะแนนแล้วน่าจะเล่นเกมทุกเกมปรับสุดได้อย่างไม่มีปัญหา
ขอเข้าเรื่องสำคัญที่สุดคือเรื่องกล้อง
โหมดต่าง ๆ มีให้เล่นครบทั้ง Pro, Live Focus, Auto Scene Optimiser คือAI นั่นเองวิเคราะห์ฉากได้19แบบและปรับสีให้เหมาะสม, AR Emoji, Hyperlapse, Slow motion/super slow-mo/panorama
กล้องหลังถ่ายได้ 3 ระยะ Ultra-wide / Normal / Zoom 2x โดยกดเลือกได้จากโหมดauto ด้านล่างจะมีรูปต้นไม้ให้เลือก ถ้าอยากได้ภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอให้ถ่ายด้วย Live Focus อย่างไรก็ตามภาพดังกล่าวอาจจะยังไม่ใช่ FW ที่จะใช้ขายจริงคุณภาพของภาพอาจวัดผลไม่ได้ทั้งหมด
[adsense]
ในส่วนกล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล ทางผู้รีวิวบอกว่าชอบในการเก็บรายละเอียดของกล้อง แต่เนื่องจากเป็น fixed Focus อาจจะต้องถือไกลนิดนึงเพื่ออให้ได้ระยะที่ชัดที่สุด
กล้องหน้า 24 MP F2.0 (จากA7) ขออนุญาตใช้แทนก่อนครับเนื่องจากสเปคเดียกวกันเป๊ะ
โดยสรุป ราคาที่ประกันณวันนี้ กลางเดือนตุลาคม
A7 4/64 = 10,990.-
A7 6/128 = 13,990.-
A9 6/128 = 19,99.-
ผมแนะนำว่าถ้าจะเล่น A7 ก็เล่นตัว4/64ไป คุ้มค่าคุ้มราคายกเว้นอยากได้แบบเผื่ออนาคตก็ไป 6/128 สิ่งที่A7 ด้อยกว่าชัด ๆ คือ
1.จอเล็กกว่า 6.0″กับ6.3″ อันนี้ขึ้นอยู่กับคุณเองแล้วหละว่าชอบไหม แต่เครื่องก็เล็กกว่าตาม
2.แบตน้อยกว่าแต่ผมคิดว่าไม่ใช่นัยยะสำคัญเพราะจอเล็กกว่า แต่สิ่งสำคัญคือไม่มี Fash Charge และยังเป็น Micro USB Port
3.กล้องไม่มี tele Zoom 2x
ที่คุณอยากครบ จบ ครั้งเดียว ใช้งานแทนกล้องถ่ายรูปได้ในระดับนึงเลย แน่นอนหละ รายละเอียดของภาพเป็นรองDSLRราคาสูงอยู่แล้ว แต่ถ้ามองถึงความสะดวกสบายที่ไม่ต้องพกเลนส์หลายตัวเรียกว่าแม้กล้อง mirrorlessที่เบาที่สุดพกแบบนี้ก็มีระดับกิโล++ A9 ตัวเดียว 5 เลนส์ 4 กล้องหลัง 1 กล้องหน้า หนักไม่ถึง 2 ขีดจะทำให้การไปเที่ยวของคุณสนุกขึ้นเยอะ แล้ว 4 กล้องถ่ายอะไร ok ยกตัวอย่างให้ฟัง สมมติว่าไปเที่ยวญี่ปุ่นนะ
กล้องหน้า 24 MP เซลฟี่ตัวเองได้คมชัดมาก หรือจะปรับหลังเบลอก็ได้เนียนอยู่
กล้องหลังหลัง 24 MP ถ่ายทั่วไป ถ่ายราเมง ถ่ายซูชิ ถ่ายเมือง ทั่วไป
กล้องหลัง 10 MP 2xtele Zoom เช่นขบวนพาเหรด DIsney ซูมเข้าไปถ่าย ขบวนพาเหรดได้ ซูมถ่ายป้ายไกล ๆ ได้ ซูมดาราก็ได้นะ
กล้องหลัง 8 MP ultra-wide ถ่ายบแบบมุมมองกว้างเช่น สะพานกูลิโกะที่โอซาก้า กล้องultra-wide คุณจะถ่ายได้ง่ายขึ้นเยอะ ถ่ายภาพแฟนกับภูเขาไฟฟูจิในสถานที่เห็นก็จะได้มุมองที่กว้างขึ้น หรืออยู่ที่ถนนถ่ายแฟนคู่กับTokyo tower มุมเสย ถ่ายลงมาจากยอดตึกก็ได้มุมมองกว้าง
กล้องหลัง 5MP Depth Sensor อันนี้ไว้ทำหน้าชัดหลังเบลอ เช่นถ่ายแฟนย่าน ฮาราจูกุ คนข้างหลังเยอะ เบลอทิ้งไปเลย หรือแบบตอนหิมะตก ถนนมีไฟดวง ๆ ข้างหลัง ก็ละลายหลังแล้วเปิด Art Bokeh ก็ทำให้หลังเบลอไฟเป็นรูปหัวใจได้ดูโรแมนติกดี
จากสรุปนี้ลองดูครับว่าA9 (2018) ที่ให้มากกว่า A7 (2018) คุณว้าวแค่ไหน แต่ก็ต้องเพิ่มงบเยอะขึ้นนะ ถ้าคิดว่า teleไม่ได้ใช้ Fast Chage อะอะใช้ชาร์จปกติก็ได้ จะเลือก A7 (2018) ก็จับต้องง่ายเลย คุ้มโคตร ๆ บอกเลยกับเทคโนโลยีกล้องแบบใหม่ แต่ถ้าอยากสุดด้านกล้องถ่ายได้หลายระยะไป A9 (2018) ครับผม สวัสดี
รีวิวประเทศไทยคาดว่าไม่น่าเกินต้นพฤศจิกายนน่าจะมีเริ่มปล่อยกัน
จุดประสงค์ในการรีวิวครั้งนี้คือ มักจะมีคนเลือกไม่ถูกว่าจะซื้อ A7(2018) ดี หรือ A9 (2018) ดี ซึ่ง A9 จะมาที่หลัง และA7 กำลังจะถึงวันจอง พรีวิวรีวิว A7 มีกันไปแล้ว จึงหา A9 มาให้ดูกันครับ
ที่มา – GSMARENA.COM