รีวิว SAMSUNG Galaxy S9 | S9+ กล้องเทพ เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว พร้อมสีใหม่สุดฉ่ำเกินห้ามใจ

ใช้ S8 อยู่แล้วไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้มั้ง….   Galaxy S9 | S9+ ใหม่ เปิดประสบการณ์ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน กล้องไม่เหมือนใคร ทำอะไรไม่เหมือนเดิม


อย่างแรกเลย ภาพลักษณ์ภายนอก SAMSUNG Galaxy S9 | S9+ มีให้เลือก 3 สี โดย 2 สีใหม่คือ ม่วง Lilac Purple และ น้ำเงิน Coral Blue  ที่มีความ “สวย” “สด” “ฉ่ำ” มากก  โดยณวันที่เขียนบทความนี้ S9 | S9+ วางจำหน่ายแล้วสีและรุ่นที่ขายดีที่สุดคือ S9+ สีม่วงครับ


กลางแจ้งนี่สะท้อนราวกระจกสีฉ่ำ

ไฟห้างแสงเหลื่อมสวย รุ้งอย่างกะสะพานไบฟรอส  ที่สำคัญคือฝาหลังกระจกก็ไม่ได้เห็นรอยนิ้วมือง่ายนักกับทั้ง 2 สีนี้


ฟีเจอร์ที่ SAMSUNG ชูโรงในครั้งนี้คือเรื่องของ “กล้องถ่ายภาพ” Galaxy S9 | S9+  มาพร้อมกับกล้องหลัง Dual Aperture 2 ค่ารูรับแสง F1.5 และ F2.4  อย่างที่หลายคนรู้กัน Fยิ่งค่าน้อยภาพก็สว่าง แถมด้วยหลังละลายมากขึ้น   แต่ Fที่น้อยมาก(รูรับแสงกว้างมาก) จะส่งผลให้ภาพกลางแจ้งในวันแดดแรง สว่างจนโอเวอร์  SAMSUNG จึงทำให้กล้องสามารถปรับม่านรูรับแสงให้แคบลงได้ค่า F 2.4 มาด้วย
นั่นแปลว่า กล้องของ S9 | S9+ สามารถถ่ายได้ทั้งกลางวันกลางคืนได้อย่างสมบูรณ์แบบ

สรุป F1.5 ถ่ายกลางคืน ถ่ายที่แสงน้อยได้ดีขึ้น สว่างกว่ารุ่นเดิม (F1.7 ใน S8) ถึง 28 % สว่างขึ้นทั้งภาพนิ่งและVDO


มาพร้อมกับ Sensor กล้องใหม่ Super Speed Dual Pixel ประมวลผลได้รวดเร็วกว่าเดิม ให้คุณภาพเนื้อไฟล์ที่ดีกว่าเดิม noise ลดลง  *เทคโนโลยีDual Pixel ทำให้การเข้าโฟกัสของวัตถุไวมาก แทบจะในทันที

ด้วยความเร็วที่มากขึ้น ส่งผลให้สามารถถ่ายVDO ได้สูงสุดกว่า  960fps ในความละเอียดระดับ HD   SAMSUNG เรียกมันว่า Super Slow-Mo [ ในการถ่ายVDOปกติถ่ายได้ระดับ 4K 60 fps* ] สามารถดูได้ใน VDO รีวิวครับ


Super Low Light Camera โหมดถ่ายในที่แสงน้อย Super-Speed Image Sensor จะถ่าย4ภาพและทำการรวมเป็นหนึ่ง และผ่านกระบวนการประมวลผลดั่งภาพ ซึ่งผลจากการรวม 12 ภาพเข้าด้วยกัน ลดnoiseได้ถึง 30%เมื่อเทียบกับ SAMSUNG Galaxy S8

ในส่วนของ S9+ มีกล้องหลัง 2 กล้อง โดยกล้องที่สองที่เพิ่มขึ้นมาเป็นกล้องแบบ Tele คือซูมเลนส์ได้ 2 เท่าแบบไม่เสียความละเอียด  และได้ประโยชน์เพิ่มในโหมด Live Focus ถ่ายหน้าชัดหลังละลายปรับได้ทั้งก่อนและหลังถ่าย  รอบนี้ทำได้เนียนกริ๊บกว่าเดิม

 ภาพที่ได้จากโหมด Selective Focus ในS9 และปรับแต่งโดยLrแล้ว
โดยใน S9 จะเป็นโหมด selective focus แทน ความเบลออาจจะน้อยกว่า S9+ บ้างและปรับความเบลอไม่ได้เลือกได้เพียงอยากได้หน้าเบลอ หลังเบลอ หรือ ชัดทั้งคู่



ยิ่งไปกว่านั้นฟีเจอร์ที่ผมเรียกว่า“โคตรโกง”คือ S9+ สามารถเปลี่ยนโบเก้หลังที่เป็นดวงไฟ ซึ่งโดยปกติแล้วไม่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ง่ายขึ้นอยู่กับกายภาพของม่านรูรับแสง  แต่S9+  สามารถเปลี่ยนรูปร่างของดวงไฟโบเก้ได้ !!! ทั้งรูป หัวใจ ดาว ดอกไม้ ผีเสื้อ ฯ   แถมทำได้เนียน เป็นความเนียนในความเบลอ  ทำได้ในโหมด Live Focus ปรับได้หลังถ่าย คิดดูสิถ้าวันที่อินเลิฟกับแฟนถ่ายไฟกับแฟนหน้า CTW โบเก้เป็นรูปหัวใจกุ๊กกิ๊ก แฟนจะปลื้มแค่ไหน

ในโหมดโปร สามารถปรับได้ทุกค่าครับ และรูรับแสงก็ปรับได้เช่นกัน



ในส่วนของ S9+ สามารถถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้ ปรับได้ทั้งก่อนและหลังถ่ายด้วยโหมด Live Focus อาศัยกล้องหลังคู่บวกกับซอฟแวร์ช่วยกันประมวลผล และถ้าคุณเปิดฟังก์ชั่น Dual Capture ยังสามารถถ่ายภาพทั้ง 2 ระยะได้ในครั้งเดียว ตอนไปเที่ยวต่างประเทศ แฟนอยากได้ภาพแบบเบลอหลัง ดูแพง ๆ ในขณะที่คุณก็ยังอยากเก็บฉากหลังไว้ด้วย ก็ไม่ต้องทะเลาะกันในต่างแดน กดถ่ายทีเดียวได้ทั้งคู่

ตัวอย่างภาพถ่ายทั้งหมดครับ



สเปคของกล้อง
กล้องหลักทั้ง S9 | S9+ 12 MP F1.5 / F2.4
กล้องตัวที่สอง สำหรับ S9+ 12 MP F2.4
กล้องหลังทุกตัวรองรับ OIS กันสั่น
กล้องหน้า 8 MP autofocus


กล้องหน้า 8 ล้าน โดนเด่นด้วยโหมด Selfie Focus ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ แม้มีเลนส์มาให้ตัวเดียว แต่ผลลัพธ์ก็ดั่งภาพเลยครับ   ทั้งoutdoorและindoor เบลอมาได้เนียนมาก  กล้องเดียวก็จบนะ  กล้องหน้าก็มีโหมดต่าง ๆ มาให้เล่น Selfie ปกติก็มีแต่งบิ้วตี้หน้าสวย cosmetic ต่าง ๆ ได้ โหมด Wide Selfie เป็นต้น

 



และลูกเล่นใหม่  AR Emoji แปลงหน้าเราเป็นตัวการ์ตูน 3 มิติ พร้อมส่งออกเป็นgif สติ๊กเกอร์น่ารักอัตโนมัติถึง 18 แบบให้เลือกใช้ หรือจะถ่ายเป็นภาพนิ่ง/VDOก็ได้ ดูเพิ่มเติมใน VDOรีวิวครับ

อ่านกันมานานจะเห็นว่าผมเขียนเรื่องกล้องเยอะมากเลย  เอาจริง ๆ แล้วมันไว้วางใจได้เลยนะ ถ้าคุณเป็นคนที่เริ่มเบื่อกับการแบกกล้อง พะวงว่าเลนส์จะไปกระแทก แบกหนัก แบตหมด ไม่อยากพกหลายเครื่อง ฯลฯ
S9+ จะทำให้การเที่ยวของคุณสนุกขึ้น ถ่ายได้เร็ว ถ่ายที่แสงน้อยได้สว่าง สว่างกว่าเลนส์kitแน่นอน ซูมถ่ายภาพได้2เท่าแบบซูมเลนส์ และสูงสุด 10เท่า  ไปเที่ยวญี่ปุ่นอยากเก็บภาพป้ายป็อกกี้ที่โอซาก้าในขณะที่แบบยังชัดก็ถ่ายได้  ไปกินอาหารแบบสตรีทฟู้ดเพิ่มความน่าสนใจให้ภาพปรับหลังให้เบลอละลายสุด ๆ ก็ทำได้ รวมไปถึง Food Mode โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเปลี่ยนเลนส์หรือพกเลนส์หลายตัวเหมือนกล้องถ่ายภาพ
???แล้วคุณภาพหละไว้วางใจได้แค่นั้น จะสู้กล้องได้เหรอ

ตัวอย่างการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอในโหมด Live Focus



แน่นอนครับ การเบลอนั้นเป็นการเบลอด้วย hardware+software ย่อมมีจุดที่ไม่สมบูรณ์แบบบ้างนิดหน่อย  แต่ถ้าใช้ upload ขึ้นโซเชี่ยล เก็บความทรงจำ หรือแม้แต่พิมพ์ออกมาในขนาดไม่เกิน A5 ผมบอกเลย คุณจะจับกล้องถ่ายรูปน้องลง
ยกตัวอย่างภาพด้านบนคุณเห็นจุดที่ไม่เป็นปัญหาไหมหละ…..^^

ในวันแถลงข่าวเปิดตัว SAMSUNG Galaxy S9 | S9+ ที่เชิญแขกรับเชิญระดับคุณแม่ชม ชมพู่ อารยามา สื่อมวลชนแน่นขนัด ผมใช้ Galaxy S9+ ยื่นมือไปสูง ๆ ถ่าย
ภาพแรกในะระปกติ ภาพที่ได้เอามาใช้งานได้แต่ในเมื่อมีเลนส์ซูม 2X จะรออะไร

ผมจัดการกด 2X ยื่นสุดแขนและถ่ายในโหมดAutoภาพที่ได้

เห็นประโยชน์ของการมีเลนส์ซูมรึยังครับ ผมสามารถเอาภาพนี้มาทำข่าวได้เลย ถามว่าการซูม 2X นี่มากไหม ? ถ้าเทียบกับกล้องถ่ายรูปติดเลนส์คิทก็ซูมได้ราว ๆ 3x   ในสถานที่คนมุงเยอะ ๆ แบบนี้ คุณจะได้ภาพดีกว่าsmartphoneเครื่องอื่นที่ซูมไม่ได้แน่นอน

การใช้งานทั่วไปการจับถือ

การใช้งานทั่วไปคงไม่ต้องห่วง ลื่นปรื๊ดดดดดดดดดดดดดด  ด้วยผล Antutu Benchmark ที่ผมทดสอบออกมาได้ถึง 244,000 !!! ฝรั่งบางคนได้ถึง 270,000  (เข้าใจว่าเป็น Snap 845)

ในขณะที่ S7 ผมได้เพียง 130,000  เท่ากันว่า S9 ได้คะแนนมากกว่า S7 รุ่นพี่2ปี ถึง 2 เท่า !!!


การจับถือรอบนี้แปลกครับ ผมกลับชอบทั้ง S9 และ S9+ แม้ผมจะมือไม่ใหญ่ เหมือนว่าขอบสัน สมดุลน้ำหนัก ผิวสัมผัส และการวางปุ่มวางUI ทำออกมาได้ดีมากขึ้น S9+ ที่มิติก็พอ ๆ กับ S8+ , Note 8

ผมจับใช้งานถนัดขึ้นเยอะเลย อันนี้ไปลองกันได้  การย้ายเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือให้ต่ำลง ทำให้สแกนนิ้วได้ง่าย(เมื่อต้องการ)


ในส่วนของน้ำหนัก S9 = 160 กรัม | S9+ = 185 กรัม


การเล่นเกมลื่นไหลดีมากครับเป็นsmartphoneระดับเรือธงแล้ว ROV ล่าสุด 10/3/61 ผมเล่นได้ fps 50-60 fps ตลอดแล้วครับ ความร้อนเมื่อเล่นเกมต่อเนื่องราว 20 นาที หน้าหลังอยู่ราว 34-36 องศาครับ

หน้าจอ Infinity Display sAMOLED Gorilla Glass 5 QHD ขนาด 5.8″ และ 6.2″ สีสรรค์ทำได้ดีกว่า สว่างกว่าเดิม เทียบกับ Note 8  นี่เห็นได้อย่างชัดเจน รองรับ HDR10 compliant และ 3D Touch (ที่ปุ่มโฮมด้วย)

ลำโพง Stereo tuned by AKG ดังกังวาน รองรับ ATMOS Dolby

ลำโพงของทั้ง S9 และ S9+ เป็นลำโพง Stereo โดยใช้ลำโพงสนทนาโทรศัพท์เป็นลำโพง stereoได้ ร่วมกับลำโพงหลักด้านล่าง   จากการทดสอบพบว่า S9+ มีความดังและอิมเพคเสียงมากกว่า S9 เล็กน้อย ตามภาพดังกว่าราว 7 dBi  SAMSUNGแจ้งว่าดังกว่า S8 ถึง 1.4 เท่า และในส่วนของหูฟัง tuned by AKG เช่นกัน

Hardware

Chipset
: SAMSUNG Exynos 9810 64 bit 10 nm
CPU : Octa-core [ 4×2.7 GHz kryo 385 Gold ] [ 4×1.7 GHz Kryo 385 Silver ]
GPU : Mali-G72 MP18*
ROM : เริ่มต้น 64 GB และมีให้เลือกสูงสุด 256 GBสำหรับ S9+
RAM : 4 GB สำหรับ S9 และ 6 GB สำหรับ S9+
BATT :3,000 mAH สำหรับ S9 และ 3,600 mAH สำหรับ  S9+
รองรับ 2 sim hybridเพิ่ม micro SD Card ได้สูงสุด 400 GB !
WiFi : 802.11 a/b/n/ac , Bluetooth 5.0
port : 3.5 mm , USB type-C
กระจกหน้า-หลัง เป็น Gorilla Glass 5 , เฟรมข้างเป็นอลูมิเนียม 7000-series
ฟีเจอร์อื่น ๆ : ป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 Iris scanner, fingerprint,ANT+, accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer, heart rate , SpO2, Bixby, NFC, Wireless Fast Charge, Fast Charge (Quick Charge 2.0) รองรับ DeXpadใหม่, Always on Display, Heat pipe ระบายความร้อน, Gigabit LTE
ในส่วนของ software มาพร้อมกับ Android 8.0 Oreo เป็นที่เรียบร้อย


-App Edge เป็นshortcutไว้เปิดappที่ใช้งานบ่อย รองรับ App Pair เรียกใช้ สองแอพคู่แบ่งหน้าจอได้ในทันที
-Dual Messanger รองรับการใช้งานแอพ 2 บัญชี เช่น Face Messager, Line ใช้เพิ่มเติมจากโฟร์เดอร์ที่ปลอดภัยก็ได้

การปลดล็อคหน้าจอแบบใหม่ รวม Iris scan และFace scan เข้าได้ด้วยกัน เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น และปลดล็อคได้รวดเร็วขึ้นด้วยโดยเลือกใช้เซ็นเซอร์ให้เหมาะกับสถานการณ์เช่นกลางแจ้งแดดจัดใช้ face recognition แทน Iris


รองรับ Bixby Live Translation แปลภาษาได้ทันทีผ่านกล้องแบบreal time รองรับภาษาไทย และยังสามารถค้นหาสิ่งของ แนะนำสถานที่ร้านอาหารได้


เปิดตัวพร้อมอุปกรณ์เสริมใหม่ DeX Pad ต่อ SAMSUNG Galaxy S9 | S9+ ออกจอmonitor และใช้หน้าจอเป็น touchpad – keyboard ได้อย่างสะดวก และ Wireless Fastcharge และเคสต่าง ๆ



สรุป
แล้ว SAMSUNG Galaxy S9 | S9+ อัดแน่นมาด้วยฟีเจอร์ นับตั้งแต่ S6 เป็นต้นมา ขนาดของเครื่องมีมิติที่ใกล้เคียงเดิมมาก แต่ในทุกปี ๆ ฟีเจอร์กลับถูกอัดแน่นขึ้นเรื่อย ๆ จนบางครั้งก็แอบขึ้นว่า Galaxy นี่คือหลุมดำหรือเปล่าทำให้อัดแน่นทุกอย่างในแกแลสซี่ได้ขนาดนี้
แล้วแบบนี้…ก็รอ S10 เลยสิในเมื่อเพิ่มขึ้นทุกปี ฮ่าาาา    พอS10ออกก็ต้องรอS11


“ความสุข” “ความประทับใจ” โดยเฉพาะจากการใช้งานที่ยอดเยี่ยมและกล้องที่ถ่ายได้ดีมาก ผมเชื่อว่า S9 | S9+ จะเก็บความทรงจำที่น่าประทับใจของคุณถ่ายทอดออกมาเป็นภาพนิ่ง เป็นเรื่องราวVDOและในแบบ super slow-mo ได้มาก ส่งความรู้สึกเป็น AR Emoji สติ๊กเกอร์  ตัวเครื่องมีความสมบูรณ์แบบมากที่สุดแบบก้าวกระโดด  ผลAntutu Benchmark ออกมาที่ 240,000 ซึ่งมากกว่า iPhone X คู่แข่งอยู่หลายหมื่น และมากกว่า S8 หลายหมื่นเช่นกัน  การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาถึงแล้ว “ของมันต้องมี” SAMSUNG brand Shop ทั่วประเทศและร้านค้าออนไลน์รอคุณอยู่   ถึงเวลาให้S9 และ S9+ อยู่ในมือคุณแล้วหละครับ  สวัสดี

รีวิวเพิ่มเติมแบบ VDO  สามารถรับชมได้ที่

ภัทร – 3PAT

%d bloggers like this: