รีวิว VIVO V15 pro กล้องหน้าpop-up 32 MP สูงสุดในโลกและกล้องหลัง 3 ตัว 48 MP
ต้นปี 2019 เราเริ่มได้เห็นนวัตกรรมใหม่ ๆ และเทคโนโลยีระดับตัวท็อปถูกถ่ายทอดมาให้กับ Smartphone ที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคามากขึ้น
VIVO V15 และ V15 Pro มาพร้อมกับเทคโนโลยีกล้องหน้า pop-up (elevating camera) ต่อยอดจาก VIVO NEX S
ณ วันนี้ถือว่า VIVO V15 Series เป็นครั้งแรกของปี 2019 ในไทยที่ใช้กล้องหน้าpop-up มาพร้อมกับความละเอียดที่ 32 MP เป็นกล้องหน้าที่มีความละเอียดที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ครับ
เมื่อกล้องหน้าถูกซ่อนหน้าจอก็สามารถขยายได้เต็มพื้นที่กว่า 91.64% ขนาด 6.39″ Super AMOLED FHD+ สเปคระดับโหด color contrast สูงถึง 10,000,000 : 1 ! และ P3 color gamut จากขนาดหน้าจอที่เต็มขนาดนี้ VIVO เลือกที่จะซ่อน ambient light sensor ไว้ใต้หน้าจอ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลกอีกเช่นกัน
และการสแกนลายนิ้วมือก็ถูกซ่อนไว้ใต้จอเช่นกัน มาพร้อมกับชิ้นเลนส์ 3 ชื้นที่ปลดล็อคได้รวดเร็วเพียง 0.37 วินาทีเท่านั้น
คำถามที่ทุกคนสงสัยรวมถึงผมด้วยคือ กล้องหน้าแบบ pop-up ทำงานอย่างไรและทนทานไหม
กล้องหน้าของ VIVO V15Pro ใช้ระบบกลไกลแบบ steping motor มอเตอร์-ลวดสปริงสำหรับ ยก และ เก็บ กล้อง ชิ้นส่วนตรงนี้เป็นโลหะ ที่ผ่านการทดสอบว่าสามารถใช้งานได้มากกว่า 300,000 ครั้ง (ถ้าตีว่าเราเรียกกล้องแบบโหด ๆ 100 ครั้ง/ วัน ระบบนี้จะสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 9 ปี) ดังนั้นจึงปลอดภัยมั่นใจกับระบบ pop-up นี้ได้เลย
อีกจุดสำคัญคือกล้องหลังมาพร้อมกับ AI Triple Camera
-กล้องหลัง 48 MP f/1.8 พร้อมเทคโนโลยี Quad Pixel sensor รวม4เป็น1พิกเซล (output efficiency = 12 MP) เพื่อภาพที่คมชัดมากขึ้น
-กล้องตัวที่ 2 8 MP AI Ultra-wide angle 120 องศา
-กล้องตัวที่ 3 5 MP depth sensor
ก่อนที่จะพูดเรื่องกล้องมาดูสเปคภาพรวมกัน
-Android 9.0 Pie + FunOS 9.0
-Chipset Snapdragon 675 AIE 2.0 GHz
-RAM 6 GB & ROM 128 GB ไม่มีรุ่นย่อย
-2 SIM + 1 Micro SD Card 3 Slots
-แบตเตอรี่ 3,700 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จไว Dual-Engine Fast Charge 18 W
-Micro USB / 3.5mm
-รองรับ AC WiFi 5 GHz
-Topaz Blue, Ruby Red
-Proximity Sensor
– Gyroscope (Gyroscope)
CPU รอบนี้มีความเร็วแรงมากขึ้นจากเดิมและประหยัดพลังงานมากขึ้น (สามารถดูได้ที่VDOรีวิวครับ) จากผลการทดสอบ
Geekbench 4 =Multi-Core = 6,450
Antutu Benchmark = ประมาณ 180,000
การเกล่นเกม 2 เกมยอดนิยมคือ ROV และ PUBG
สำหรับเกม จะมีตัวช่วยเหลือด้านเกมมาให้เป็นปกติตามสมัยนิยม เช่น clear RAM / เร่งประสิทธิภาพการประมวลผล และป้องกันสายโทรเข้าและแจ้งเตือนระหว่างเล่นROV สามารถปรับ high fps ได้ เราปรับทุกอย่างสุดหมดพบว่าเกมเล่นได้ดีมาก ๆ ครับ มีแตะ 60 fps ให้เห็นตอนเริ่ม และส่วนใหญ่ fps = 55+ ช่วงหนักที่สุดประมาณ 52 fps ควบคุมทิศทางดี หน้าจอติดฟิล์มให้แล้ว ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่แบบนี้ไม่มีจอติ่ง จอบากมาบดบังทำให้การเล่นเกมเต็มอารมณ์มาก
PUBG สามารถปรับ HD / HIGH ได้ เกมลื่นไหลดีครับ หน้าจอที่ contrast สูงมากแบบนี้ทำให้เห็นศัตรูได้ง่ายขึ้น การควบคุมทิศทางอาจจะต้องปัดหน้าจอเพิ่มบ้าง วัดที่ default นะ และการเล่นเกมรู้สึกได้เลยว่าเสียงลำโพงเบา หรือผมหาที่ปรับไม่เจอก็ไม่รู้ อย่างไรก็ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะเครื่องนี้เป็นเครื่องทดสอบอาจยังไม่ใช่ final ROM ขายจริง และ VIVO เป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการการแข่งขัน PUBG SEA International Champianship เครื่องจะต้องถูกปรับจูนมาให้ดีอย่างแน่นอน
ดู VDO สามารถดูได้เต็มหน้าจอจริง ๆ ครับ และเสียงลำโพงค่อนข้างดังแบบใส ๆ
การถ่ายภาพเราต้องบอกว่าด้วยความเป็น VIVO ขึ้นชื่อเรื่องการถ่ายภาพแนวฟรุ๊งฟริ๊งอยู่แล้ว คราวนี้การถ่ายแบบปกติไม่ใส่บิวตี้ก็คมชัดครับ กล้อง 48 MP เทรนด์สมัยใหม่ VIVO ก็ใส่มาให้เรา
ถ้าใครอยากได้ความแบ๊วก็เปิด Face Beauty ซะ เนียนกริ๊บฮะ เปิดได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
จากที่ทดสอบกล้องหน้าถ้าเปิดหลังละลายจะบิวตี้น้อยกว่าหลังไม่ละลาย แล้วแต่ชอบ และลองถ่ายแบบไม่มีบิวตี้ก็ได้หน้าจริงที่คมชัดครับ ผมเคยเจอชายแมนๆบางคนจะกลัวว่าถ่ายแล้วจะออกสาว ไม่ต้องกลัวนะครับ เปิด-ปิดได้ พอปิดแล้วก็คือหน้าเราจริง ๆ
กล้องหน้านอกจาก Face Beauty แล้วสิ่งหนึ่งที่เรียกเสียงฮือฮาได้มากในห้องแถลงข่าวคือ AI Body Shaping !!! คือAI สามารถวิเคราะห์และปรับรูปร่างของเราได้ เฮ้ยยย!!!!!!
ไหล่กว้าง ขายาว เอวคอด สูงขึ้น ได้หมดจ้า ปรับพร้อม Face Beauty ด้วย คือ ถ้าใครที่ไม่ถนัดนัดเจอตัวจริง บอกเลยฮะ VIVO V15 และ V15 Pro นี่ปังมากกกกก
ตัวอย่างภาพถ่าย(มีupdateเพิ่มเติม***)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าแบบเปิด AI Beauty น้อยที่สุดครับ จะได้ความเนียนประมาณนี้ดูไม่หลอกตาจนเกินไป
สองภาพนี้เป็นภาพถ่ายจาก outdoor ครับ ปรับเยอะจะได้ภาพประมาณนี้ ให้ดูเป็นแนวทางสำหรับคนชอบแนวฟรุ๊งฟริ๊งครับ
3 ภาพนี้ไล่มาจาก
1.ปิดบิวตี้ทั้งหมด ก็ถือว่ากล้องหน้า 32 MP เก็บรายละเอียดได้คมชัดครับ จากภาพขนาดเต็มที่เส้นผมชัดมาก
ริ้วรอยบนใบหน้าก็ชัดครับไม่ถูกเบลอหรือแต่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วเมื่อปิดบิวตี้ เราจะได้ภาพที่คมชัดที่สูงเหมาะกับคนสุขภาพใบหน้าดีฮ่าๆ
2.เปิดบิวตี้ค่อนข้างเยอะ จะเห็นว่าหน้าเนียนใสเป็นก้นเด็ก หลังละลายในระดับนึงครับ
3.เปิดเอฟเฟ็กต์ถ่ายภาพบุคคล หรือ portrait กล้องหน้าจะได้ความเบลอหลังที่มากขึ้นครับ แต่ใบหน้าจะถูกเติมแต่งให้น้อยลงใกล้เคียงกับการปิด บิวตี้ครับ
โหมดภาพถ่ายกลางคืน ถ่ายแบบ stack layers เราต้องถือVIVO V15 Pro นิ่ง ๆ ราว2-3วินาที จากการทดสอบพบว่า
ในส่วนมืดถูกเติมแต่งให้สว่างขึ้นครับ ส่วนสว่างยังคงเดิม ภาพกลมกล่อม แต่ไม่ถึงขั้นเปลี่ยนแปลงไปเป็นคนละอารมณ์หรือแนวแฟนตาซี
และเลนส์อีกตัวคือ Ultra-wide 8 MP เก็บภาพได้มุมมองกว้าง 120 องศา
ภาพเพิ่มเติมเดี๋ยวมาใส่ให้อีกครับ
ราคาเปิดตัว VIVO V15 เปืดราคามาที่ 10,999 บาทและ VIVO V15 Pro เปิดราคามาที่ 14,999 บาท pre-order 1-8 มีนาคม รับเครื่องและขายจริง 9 มีนาคม ถามว่าซื้อตัวไหนดีถ้างบถึงผมเชียร์ VIVO V15 Pro ครับ / V15 ก็ถือว่าให้สเปคภาพรวมมาคุ้มค่าครับและได้กล้อง pop-up เหมือนกัน
แต่นี่คือ รีวิว VIVO V15 Pro ฮ๋า ช่วงpre-order จอง 500 บาทได้ giftหลายอย่างครับ ยกตัวอย่างเช่น บัตร VIVO VIP เพิ่มการรับประกันเป็น 2 ปี และมีประกันจอแตก
สรุปแล้ว”นวัตกรรม” ไม่จำเป็นต้องแพงหลายหมื่น เราต้องขอขอบคุณค่ายSmartphone ต่าง ๆ ที่ทำเพื่อผู้บริโภค และ VIVO V15 Pro เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจและใส่สเปคที่ล้ำยุคมาให้
ทั้งกล้องหน้า Pop-up 32 MP กล้องหล้ง 48 MP
RAM 6 GB / ROM 128 GB เหลือเฟือสำหรับการใช้งาน และอื่น ๆ ตามที่เราได้รีวิวไป
การใช้งานภาพรวมเฉกเช่นเรา ๆ ใช้กัน ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม แบตอึดหน่อย ชาร์จไว กล้องต้องทั้งถ่ายแบบบิวตี้ก็สวย ถ่ายแบบเน้นความคมชัดก็ได้ VIVO V15 Pro พร้อมทำได้ทุกข้อผ่านทุกการทดสอบครับ