Smartphone 10,000+- ปลายปี2019 จัดเต็มมีรุ่นไหนน่าสนบ้าง


บทความนี้เราขอยก Smartphone ช่วงเรทราคา 10,000 บาท+- ที่ถือเป็นตลาดคุ้มค่าคุ้มราคา ที่หลายคนยังพอจับต้องได้ไม่เกินเอื้อม โดยปีนี้หลายตัวได้รับฟีเจอร์ระดับเรือธงตัวท็อปพอร์ทมาใส่กันเพียบเลย ขอยกตัวอย่างรุ่นเด่น ๆ มาสัก 3 รุ่นนะครับ

1.vivo S1 เปิดตัวมาเป็นค่ายแรก ๆ กับราคา 8,999 บาท มีกล้องหลังมาให้ 3 ตัว ถ่าย Ultra-wide angle มุมมองกว้างได้ หน้จอ sAMOLED 6.38″ แต่ RAM ให้มาจำกัดที่ 6 GB  และ CPU Helio P65 2.0 GHz เทคโนโลยีเดิม 12 nm  ทำให้กินพลังงานมากกว่ารุ่นใหม่ ๆ แต่ทนแทนมาด้วยแบตก้อนใหญ่ 4,500 mAh และระบบชาร์จเร็ว Dual Engine Fast Charge 18 W ผ่าน Micro USB

2.Huawei Nova 5T มาพร้อมกับความโดนเด่นที่โฆษณาว่า 5 กล้องAI อัจฉริยะ ซึ่งจริง ๆ แล้วก็คือ 4 กล้องหลัง + 1 กล้องหน้าเท่ากับหลาย ๆ รุ่นไม่ได้มีมากกว่าแต่อย่างใด แต่ใช้สโลแกนเรียกรวมทั้งกล้องหน้าและหลังครับ กล้องหน้า  ซึ่งกล้องหลัง 4 ตัวถ่ายได้ครบระยะ ปกติ(wide), Ultra-wide Angle, Macro mode แต่กล้องหน้ารอบนี้กลับถ่ายได้สวยเนียนไม่เท่า P30 Lite รุ่นพี่ซะอย่างนั้น

ความโดดเด่นที่แท้จริงคือ CPU Chipset ตัวแรง Kirin 980 7 nm  ที่เร็วแรงจริง เล่นเกมได้ลื่น แต่ด้วยความเป็นCPUตัวแรงก็จะกินพลังงานมากกว่า  หน้าจอเล็กลงเหลือ 6.26″ แบตที่ให้มาก้อนเล็ก 3,750 mAh ทดแทนด้วยระบบชาร์จไว Huawei Super Charge 22.5 W ผ่าน USB-C  และไม่สามารถเพื่ม Micro SD Card ได้ ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 mm และเปิดราคามาแพงสุดคือ 10,990 บาทครับ


3.realme 5 Pro  แบรนด์Smartphoneที่มาแรงยอดขายเติบโตอย่างรวดเร็วในไทย เพราะเล่นใส่สเปคครบและกดราคาให้ถูกกว่าใคร เริ่มต้นเพียง 7,999 บาท จะได้กล้องหลัง 4 ตัว Quad Camera ที่ถ่ายครบระยะ wide, ultra-wide, Macro 4 cm ได้ไม่แพ้ใครในกลุ่ม  กล้องหน้ามี AI Beauty ที่เรื่องลือถึงความสวยใส

ด้านความแรงใส่ CPU Chipset ใหม่ Qualcomm Snapdragon 712 AIE 10nm 2.3 GHz  ที่เล่นเกมได้ลื่นไหล ROV ระดับ 60fps  แต่ประหยัดพลังงานมาก และเป็นCPUตระกูลรองท็อปที่ไม่กินพลังงานจนเกินไป พ่วงมากัุบ RAM 4 GB (เพิ่ม 1,000 บาทจะได้เป็น ROM 8 GB) และ ROM 128 GB แบบ UFS2.1 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในไทยกับSmartphoneเรทราคานี้ การอ่านและเขียนเร็วแรงกว่าปกติหลายเท่า เพิ่ม Micro SD Card ได้ด้วย และ portเชื่อมต่อต่าง ๆ ให้มาครบทั้ง ช่องหูฟัง 3.5 mm  และ USB-C

แบตก้อนใหญ่ 4,035 mAh รองรับการชาร์จไว VOOC Flash Charge 3.0 ที่ชาร์จเร็วไม่ร้อน ชาร์จได้ทั้งเปิดและปิดเครื่อง  ถือว่าใส่มาครบทุกด้าน เพราะเพื่อน ๆ เรทราคาเดียวกันชอบใส่เยอะบางจุด แต่จุดอื่นคือหายไปเลย      เมื่อใส่ฟีเจอร์-ฮาร์ดแวร์มาแน่นจัดเต็มแบบนี้ก็มีข้อจำกัดเช่นกัน คือ ตัวเครื่องหนากว่าเพื่อนเกือบ 1 mm  ย้ำว่า 1 มิลลิเมตร ประมาณความหนาบัตรเครดิต 1 ใบ  ส่วนฝาหลังเป็นโพลี่คาบอร์นเนต บางคนอาจติว่าไม่ใช่กระจก แต่เมืือตกก็จะไม่แตกทนทานกว่า แถมด้วยกระจกหน้าจอยังเป็น Gorilla Glass 3+  โดยราคาเริ่มต้น 7,999 บาท เท่านั้นถูกกว่าเพื่อนแต่ให้มาครบและแลดูคุ้มค่ากว่า


ภาพนี้จะเห็นว่า Huwaei Nova 5T ถูกตัดช่องหูฟัง 3.5mm ออกไป


Huawei Nova 5T ถูกตัดช่อง Micro SD Card ออกไปไม่ใช่ Hybrid คือเพิ่มไม่ได้เลย ในขณะที่ Vivo S1 และ realme 5 Pro ยังให้มาครบ 3 slots


กล้องหลัง Vivo S1 จะมีเพียงแค่ 3 กล้อง ขนาดสูงสุด 16 ล้านพิกเซล ในขณะที่ Huawei Nova 5T และ realme 5 Pro ได้กล้อง Macro เพิ่มขึ้นมาและมาพร้อมกับImage Sensor ใหญ่กว่ามากขนาด 48 ล้านพิกเซล


จากตารางเปรียบเทียบ หมายเหตุตรง realme 5 Pro มี 2 รุ่นย่อยครับ คือรุ่น RAM 4 GB ROM 128 GB ราคา 7,999 บาท และรุ่น RAM 8 GB ROM 128 GB ราคา 8,999 บาท  จากตารางจะเห็นว่าราคาถูกที่สุดและให้สเปคมาครบทุกด้าน ตัวเลขบางฟีเจอร์อาจเป็นรองอยู่นิดหน่อย แต่การใช้งานจริงถือว่าไม่ต่าง และที่สำคัญคือไม่ตัดฮาร์ดแวร์สำคัญออกที่ใส่เพิ่มที่หลังไม่ได้ เช่น ช่องหูฟัง 3.5 mm / Micro SD Card slot / กล้องตัวที่ 4 เป็นต้น


ดังนั้นสรุปบทความนี้

Vivo S1 จะเหมาะกับกลุ่มผู้ใช้ที่ชื่นชอบแบรนด์ Vivo หรือเคยชินและชอบการแต่งภาพแนวบิวตี้ของ Vivo  ,

Huawei Nova 5T จะเหมาะกับผู้ใช้กลุ่มที่ต้องการ CPU แรงได้กล้องหลัง 4 ตัว และรับได้กับสเปคด้านอื่นที่ถูกลดทอนหรือตัดออกไปแบบไม่สามารถพิ่มเติมที่หลังได้

realme 5 Pro จะเหมาะกับกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการความครบครันทุกด้าน ไม่มีด้านใดที่ตัดหายไปเลย ในราคาที่ย่อมเยากว่า แต่ตัวเครื่องจะหนากว่าประมาณ 1 mm ครับ

 

 

 

%d bloggers like this: